วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เปิดตัว GitLab 11.0 เพิ่ม Auto DevOps ให้ใช้งานแบบ GA

GitLab ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน 11.0 อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดฟีเจอร์ Auto DevOps ให้ใช้งานแบบ GA


GitLab ได้เคยประกาศเปิดตัว Auto DevOps มาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อใช้งานกับ Production ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ล่าสุด GitLab ได้ประกาศเปิดตัว Auto DevOps แบบ GA แล้ว ใน GitLab 11.0 ซึ่ง Auto DevOps นั้นจะคอยควบคุมการทำงานลักษณะ end-to-end lifecycle เพียงแค่นักพัฒนาทำการ commit code ไปยัง GitLab หลังจากนั้น Auto DevOps จะคอยทำงานส่วนที่เหลือ เช่น Building, Testing, Code quality scanning, Security scanning, License scanning, Packaging, Performance testing, Deploying และ Monitoring ช่วยให้องค์กรสามารถเริ่มต้นใช้งาน DevOps ได้อย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ GitLab ยังเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆที่สำคัญอีกในเวอร์ชันนี้ ได้แก่ License Management เพื่อคอยตรวจสอบการใช้งาน license ใน project, เพิ่ม Security Testing บน container และ dependencies, รองรับการแสดงผล Kubernetes pod logs, ปรับปรุง Web IDE, ปรับปรุง Epic and Roadmap และอื่นๆ

ที่มา: TechTalk

Apple อาจวางจำหน่าย แผ่นชาร์จไร้สาย AirPower ในเดือนกันยายน 2018


ล่าสุด Bloomberg ได้รายงวานว่าแผ่นชาร์จไร้สาย AirPower ได้รับการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาความร้อนที่สูงเกินแล้ว ซึ่งแผ่นชาร์จดังกล่าวมีแผงวงจรที่ซับซ้อน และใช้ชิปของ Apple ในการันระบบ iOS เพื่อจัดการกระจายพลังงานแก่อุปกรณ์แต่ละชิ้น

ปล. แผ่นชาร์จไร้สาย AirPower สามารถชาร์จอุปกรณ์ Apple ได้ 3 ชิ้น พร้อมกัน ทั้ง iPhone, Apple Watch และเคส AirPod


อีกทั้งยังมีแหล่งข่าวรายงานว่า Apple อาจเริ่มวางจำหน่าย AirPower ในช่วงเดือนกันยายน 2018 นี้ ซึ่งทาง Apple ได้ดำเนินการทดสอบแผ่นชาร์จดังกล่าวเพิ่มเติม โดยการนำมาใช้ชาร์จที่ออฟฟิศของ Apple ทุกวัน


ที่มา: Beartai

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Facebook เผยแพร่งานวิจัย แก้ไขภาพถ่ายที่คนเผลอหลับตาได้ด้วย AI

Facebook เผยแพร่งานวิจัย ของระบบในการแก้ไขภาพถ่าย ที่ผู้ถูกถ่ายภาพเผลอหลับตา โดยสามารถเติมดวงตาเข้าไปได้ด้วย AI อาศัยข้อมูลพื้นฐานจากภาพถ่ายอื่นประกอบ ซึ่งแตกต่างจากงานแก้ไขภาพแบบอื่น ที่มักอาศัยองค์ประกอบโดยรอบในภาพ แต่หากคนในภาพหลับตาแล้ว ก็จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอดีตมาช่วย

วิธีการแก้ไขภาพนี้อาศัยเครือข่ายแบบ Generative Adversarial Networks (GAN) ทำให้เรียนรู้ได้ว่าดวงตาที่ควรนำไปใส่ในภาพที่ต้องการแก้ไข เป็นของใคร และควรปรับสี และรูปทรงให้เข้าภาพนั้นอย่างไร



ที่มา: Blognone

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Visa เผย Data Center ล่มเพราะ Switch ทำงานผิดปกติ และ Failover ไม่สำเร็จ

เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี้มีเหตุการณ์ Data Center ของ Visa มีปัญหาไปประมาณ 10 ชั่วโมง จนทำให้ธุรกรรมเกือบ 5 ล้านรายการหรือประมาณ 10% ในยุโรปล้มเหลวไป ซึ่งทาง Visa ก็ออกมาแถลงว่าต้นเหตุของกรณีเกิดจากปัญหาที่อุปกรณ์ Switch ภายใน Data Center นั่นเอง


Visa ระบุว่า Data Center ของ Visa ในยุโรปนั้นมีด้วยกัน 2 แห่ง และทั้ง 2 แห่งนี้จะทำงานร่วมกันแบบ Active-Active โดยหากแห่งหนึ่งหยุดทำงานไป อีกแห่งหนึ่งก็ทำงานทดแทนได้อย่างสมบูรณ์และรองรับธุรกรรมทั้งหมดได้ด้วยตนเอง แต่ในกรณีนี้อุปกรณ์ Switch นั้นเกิดปัญหาในเคสที่เป็นไปได้ยาก หรืออุปกรณ์มีปัญหาแค่บางส่วนเท่านั้น ทำให้ Switch สำรองไม่ทำ Failover ขึ้นมาทำงานแทน และทำให้การรับส่งข้อมูลระหว่าง Data Center 2 แห่งมีปัญหาเป็นบางส่วน

ทาง Visa ต้องทำการปิดอุปกรณ์ Switch ชุดที่มีปัญหาทิ้งเพื่อแก้ไขปัญหาระบบเครือข่ายก่อน จากนั้นจึงพบว่ายังมีปัญหาข้อมูลธุรกรรมคงค้างและข้อมูลไม่เท่ากันใน Data Center ทั้ง 2 ระบบ จึงต้องทำการตัดระบบเครือข่ายของ Data Center หลักทิ้ง, ปิดระบบทั้งหมดใน Data Center หลักเพื่อไม่ให้การ Synchronize ข้อมูลสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้กับ Data Center รอง จากนั้นจึงไปจัดการกับ Message Backlog ทั้งหมดที่ Data Center รองให้เรียบร้อย

กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนที่ธุรกรรมต่างๆ ของ Visa จะกลับมาทำงานได้เป็นปกติ โดยปัจจุบันทาง Visa ได้ให้ทาง EY เข้าไปทำการตรวจสอบเหตุการณ์นี้เพิ่มเติม และทาง Visa ก็กำลังเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่

ก็ถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่ดูแลระบบ Data Center ว่าการออกแบบระบบให้ทำงานทดแทนกันได้นั้นก็อาจยังวางใจไม่ได้ และทักษะด้านการตรวจสอบแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี

ที่มา: TechTalk

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ไมโครซอฟท์ออก Office 2019 for Mac รุ่นพรีวิวให้ทดสอบ

ไมโครซอฟท์ออก Office 2019 for Mac Preview ตามหลัง Office 2019 สำหรับพีซีที่ออกพรีวิวไปก่อนหน้านี้ ในชุดประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote

ฟีเจอร์หลายอย่างของ Office 2019 อยู่ใน Office 365 เรียบร้อยแล้ว แต่ไมโครซอฟท์ยังออก Office 2019 สำหรับลูกค้าที่ยังใช้วิธีจ่ายค่าไลเซนส์แบบซื้อขาด ไม่ได้จ่ายรายเดือนแบบเดียวกับ Office 365 ให้ต่อไป ตัวอย่างฟีเจอร์ใน Office 2019 ได้แก่การรองรับปากกาที่ดีขึ้น, ฟีเจอร์ Morph ใน PowerPoint, แปลงไฟล์วิดีโอเป็น 4K, Word โหมดโฟกัสกับงานเขียน เป็นต้น

Office 2019 มีกำหนดออกตัวจริงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ทั้งบนพีซีและแมค


ที่มา: Blognone

4.0 ของจริง! คนสวีเดนเริ่มฝังไมโครชิปบนผิวหนังแทนพกบัตรประชาชน


สำนักข่าว AFP รายงานว่าปัจจุบันประชาชนชาวสวีดิช เริ่มทำการฝังไมโครชิปลงบนผิวหนังของตนเอง ซึ่งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ ไม่ต้องพกบัตรประชาชน, ใช้สแกนแทนคีย์การ์ดในการเข้าทำงานในออฟฟิศ, ซื้ออาหารจากตู้อัตโนมัติ, เข้ายิม, หรือแม้แต่ใช้แทนตั๋วรถไฟ โดยรายงานระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวสวีดิชกว่า 3,000 รายที่ติดไมโครชิปแล้ว

สำหรับการฝังชิปนั้นถูกระบุว่ามีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยระดับมดกัดไม่ต่างจากการเจาะหู ซึ่งการฝังชิปแม้จะฝังไว้ที่ผิวหนังแต่ก็อยู่ในระดับชั้นที่ไม่ลึก ทำให้การอ่านค่าชิปรวมทั้งบันทึกข้อมูลจัดเก็บสามารถทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้คนสวีเดนหันมาใช้ไมโครชิปมากกว่าชาติอื่นๆ ก็เนื่องจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศนั้นมีประสิทธิภาพระดับสูงสุด ที่ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะเป็นความลับไม่รั่วไหลแน่นอน

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรในสวีเดนเพียง 2% ที่ยังพกเงินสดติดตัว ขณะที่อีก 98% นั้นจ่ายผ่านบัตรเครดิตและสมาร์ทโฟนหมดแล้ว ซึ่งเทรนด์ของการใช้ร่างกายมนุษย์มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยี (Biohackng) โดยน่าสนใจไม่น้อยกว่าในอนาคตอุปกรณ์ไอทีพื้นฐานมากมายที่อาจถูกออกแบบมาเมื่อฝังลงในร่างกายของมนุษย์

ที่มา: Beartai

Microsoft เข้าซื้อกิจการ GitHub แหล่งรวม Source Code ใหญ่ที่สุดในโลก


เว็บไซต์ Bloombeg ได้รายงานว่า Microsoft ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของ GitHub ซึ่งทาง Bloomberg ได้ระบุว่า GitHub ได้เลือกร่วมงานกับ Microsoft เพราะ สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของ Microsoft


GitHub เป็นพื้นที่เก็บรวบรวม Code ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ เข่น Apple, Amazon, Google และ Microsoft เป็นต้น และมักใช้เป็นเจ้าของโปรเจ็คต์ซอฟต์แวร์แบบ Open Source

ไม่เพียงแค่นั้น Microsoft ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุน GitHub อย่างชัดเจน โดยพนักงานกว่า 1,000 คน ได้นำ Code ต่างๆ มาเก็บไว้บนพื้นที่ของ GitHub
 
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา GitHub ได้มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านเหรียญ และเมื่อเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา GitHub ได้มีผู้ใช้มากกว่า 14 ล้านคน และมากกว่า 35 ล้านพื้นที่เก็บ ซึ่งส่งผลให้ GitHub เป็นเจ้าของงาน Source Code ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Microsoft ได้ซื้อกิจการของ GitHub ด้วยมูลค่าเท่าไร

Chris Wanstrath ผู้ร่วมก่อตั้ง GitHub

นับตั้งแต่ สัตยา นาเดลลา ได้เข้ามาเป็นซีอีโอเมื่อปี 2014 เป็นต้นมา Microsoft ได้ลงทุนในเทคโนโนยี Open Source อย่างรวดเร็ว โดยได้เปิด PowerShell, Visual Studio Code และ Microsoft Edge JavaScript Engine อีกทั้งยังร่วมกับ Canonical ในการนำ Linux (Ubuntu) มาใช้ใน Windows 10 และซื้อกิจการ Xamarin เพื่อช่วยในการพัฒนาแอปมือถือ

ที่มา: Beartai