วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รู้จัก OS X 10.10 Yosemite ปรับอินเตอร์เฟซ แอพพลิเคชัน เน้นการใช้งานที่ต่อเนื่อง

ความสำเร็จของการเปิดตัว OS X 10.9 Mavericks เมื่อปี 2013 จึงไม่น่าแปลกใจที่ Apple จะสานต่อด้วย OS X 10.10 Yosemite พร้อมแนวคิดที่เน้นการปรับอินเตอร์เฟซ แอพพลิเคชัน และเน้นการใช้งานที่ต่อเนื่อง


OS X 10.10 Yosemite ปรับอินเตอร์เฟซด้วยคอนเซปต์ Flat Design เช่นเดียวกับ iOS 7 มีลักษณะโปร่งแสง สามารถเปลี่ยนไปใช้ Dark Mode ที่ทำให้เมนูย่อยเป็นกลายเป็นสีดำโปร่งแสง มีความชัดเจนในการเรียกใช้งาน อีกสิ่งที่บ่งบอกถึงการปรับอินเตอร์เฟซให้ละม้ายคล้ายคลึง iOS 7 คือ ฟอนต์ ที่หันมาใช้ Helvetica Neue แทบทั้งหมด


ตัวเลือกในการใช้งาน OS X 10.10 Yosemite ปรับ Notification Center ให้มีมุมมองสำหรับการเรียกดูปฏิทิน การแจ้งเตือนต่างๆ สภาพอากาศ และอื่นๆ ให้ดีขึ้น และฟังก์ชันการค้นหาหรือ Spotlight ได้รับการออกแบบใหม่ แสดงหน้าต่างได้ใหญ่ขึ้นเพื่อการค้นหาที่ง่ายยิ่งขึ้น สามารถแปลงค่าเงินต่างๆ ได้ รวมถึงการค้นหาแผนที่และภาพยนตร์

คุณสมบัติใหม่ต่อมาเรียกว่า iCloud Drive บริการจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาว์ด สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Mac หรือ Windows


MailDrop อีกหนึ่งฟังก์ชันใหม่ ซึ่ง Apple จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ ให้สามารถแนบไฟล์ขนาดใหญ่สูงสุด 5GB ซึ่งจะมี iCloud ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการโอนไฟล์ข้อมูลต่างๆ ขณะเดียวกันในฟังก์ชันอีเมล์ ผู้ใช้สามารถทำสัญลักษณ์ชี้จุด (Markup) หรือพิมพ์ข้อความลงในไฟล์ หรือใส่ลายเซนต์ได้ก่อนส่งอีเมล์ได้อีกด้วย


Safari เวอร์ชันใหม่มีการออกแบบอินเตอร์เฟซใหม่ตามแบบ iOS 7 ไม่มีแทบแสดง Bookmark แต่จะปรากฎเป็นหน้าต่างป๊อบอัพแสดงโลโก้ของเว็บที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ มี Tab View แบบใหม่ รองรับ RSS Feed สามารถ Share หน้าเว็บไปยังบุคคลที่ต้องการติดต่อได้ในทันที นอกจากนี้ก่อนการส่งเมล์ผู้ใช้สามารถแต่งรูปหรือใส่ข้อความก่อนส่งได้เหมือน ใน MailDrop

Handoff เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันสำหรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง เชื่อมการทำงานระหว่าง OS X 10.10 Yosemite กับ iOS ได้แล้ว หรือสามารถโยนไฟล์ไปมาระหว่างกันได้แล้วนั่นเอง หรือในขณะที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ สามารถใช้ iPhone เข้าไปใกล้ๆ กับคอมพิวเตอร์ Mac ที่ใช้ OS X 10.10 Yosemite เพื่อสั่งเปิด Personal Hotspot จาก iPhone ได้โดยอัตโนมัติ


OS X 10.10 Yosemite ยังทำหน้าที่แทน iPhone ทั้งการส่งข้อความ ใช้รับสายหรือโทรออกได้ ซึ่งคอมพิวเตอร์ Mac จะต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัวเดียวกับที่ iPhone กำลังเชื่อมต่ออยู่ด้วย จึงจะใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวได้


OS X 10.10 Yosemite เวอร์ชัน Beta สำหรับนักพัฒนาดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ภาคประชาชนทั่วไปรอเวอร์ชันเต็มช่วงปลายปี โหลดฟรีครับ !!!

ที่มา: ARiP

แอปเปิลเปิดตัวภาษา Swift สำหรับการพัฒนาบน iOS และ OS X

แอปเปิลเปิดตัวภาษารุ่นต่อไปสำหรับการพัฒนาบน iOS ในชื่อว่าภาษา Swift แก้ปัญหาทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและฟีเจอร์ของภาษาสมัยใหม่ ตัว runtime สร้างขึ้นบนโครงสร้าง LLVM มีประสิทธิภาพดีกว่า Objective-C ทุกวันนี้เกือบเท่าตัว

ในแง่ฟีเจอร์ Swift จะรองรับฟีเจอร์ของภาษาโปรแกรมยุคใหม่ เช่น interface, generics, namespace, closure ตัวภาษาสามารถคอมไพล์เป็นไบนารีแบบเนทีฟได้ และมีฟีเจอร์ระดับสูงเช่น collections หรือ pattern matching มาให้ในตัว รวมถึงฟีเจอร์ที่เจาะจงกับ iOS และ OS X อย่าง Cocoa และ Cocoa Touch ก็จะทำงานร่วมกับ Swift ได้ในตัว


เมื่อทำงานร่วมกับ Xcode รุ่นใหม่ Swift จะมีฟีเจอร์ Playground สามารถรันซอฟต์แวร์โดยเห็นค่าตัวแปรต่างๆ เปลี่ยนไปได้ทันที

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Swift อ่านได้จาก Apple Developer 

ที่มา: Blognone

แอปเปิลเปิดตัว iOS 8 ไม่มุ่งเน้นทำสิ่งใหม่ แต่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

เปิดตัวในงาน WWDC ตามคาดสำหรับ iOS 8 ที่ยังคงหน้าตาแบนเหมือนรุ่นก่อนหน้า เน้นไปที่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่างดังนี้ครับ
  • Interactive notifications ให้ผู้ใช้สามารถตอบสนองกับข้อความแจ้งเตือนได้แล้ว เช่นการตอบข้อความจากในข้อความแจ้งเตือน หรือกดไลค์โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นต้น แถมยังใช้งานจากหน้าล็อกได้อีกด้วย
  • Quick access สำหรับเข้าหารายชื่อผู้ติดต่อรายสำคัญได้จากหน้า Multitask เพื่อโทรหา ส่งข้อความ วิดีโอคอล หรือแม้แต่ FaceTime ก็ยังได้
  • เพิ่ม gesture ใหม่ๆ เข้าไปในแอพ Mail (เหมือน Mailbox)
  • แอพ Message สามารถคุยเป็นกลุ่มได้ และตั้งชื่อกลุ่ม รวมถึงใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Do Not Disturb ได้เช่นกัน มีฟีเจอร์มาตรฐานอย่างการส่งภาพ คลิปวิดีโอ เสียง และสถานที่
  • เพิ่มฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยสำหรับใช้ในองค์กรจำนวนมาก
  • การค้นหาใน Spotlight ทำได้ละเอียดขึ้น มากขึ้น
  • ฟีเจอร์เพื่อสุขภาพ! Health แอพที่จะเก็บทุกข้อมูลสุขภาพไว้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งการซิงก์กับอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ จนถึงประวัติการรักษาของผู้ใช้ด้วย 
  • Family Sharing แชร์ข้อมูลกับคนในครอบครัวอัตโนมัติทั้งแอพ ภาพถ่าย ปฏิทิน แจ้งเตือน หรือแม้แต่ฟีเจอร์ Find my Friends ลูกจะใช้จ่ายอะไร พ่อแม่ต้องให้อนุญาตก่อน ใช้ได้สูงสุด 6 คน ต่อครอบครัว
  • สองฟีเจอร์ใหม่ในแอพ Photo Smart Suggestion ค้นหาภาพได้ด้วยข้อความ (เช่นพิมพ์ Beach หาภาพชายหาด) แนะนำคำที่ค้นหาได้ และ Smart Editing ระบบแต่งภาพใหม่ ปรับแต่งภาพได้ละเอียดขึ้น
  • Siri จดจำเพลงได้แล้ว ใช้ซื้อคอนเทนต์จาก iTunes ได้ รองรับการพิมพ์ด้วยเสียงเพิ่มอีก 22 ภาษา
  • Extensibility แชร์ข้อมูลจากแอพหนึ่ง ไปอีกแอพหนึ่งได้แล้ว (นึกถึง Share ของแอนดรอยด์ไว้ครับ)
  • Widgets ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง สามารถใส่วิดเจ็ตลงไปใน Notification Center ได้แล้ว
  • อัพเดตใหญ่ให้คีย์บอร์ด เพิ่มฟีเจอร์ QuickType สามารถเดาคำต่อไปในระหว่างพิมพ์ได้ ใช้งานได้รวดเดียว 14 ภาษาด้วยกัน มีภาษาไทยด้วย!
  • รองรับคีย์บอร์ดจากนักพัฒนาภายนอกแล้ว โชว์ Swype กลางงานเลยทีเดียว
  • เปิดการเข้าถึง TouchID APIs ให้กับนักพัฒนาภายนอก
  • อัพเดต Camera APIs ให้ทำงานได้เร็วขึ้น เขียนอ่านไฟล์จากคลังภาพได้แล้ว
  • HomeKit certification สำหรับอุปกรณ์ในบ้านที่จะใช้งานกับอุปกรณ์ iOS คุมแสงไฟ กล้องวงจรปิด ล็อกประตู อุณหภูมิ ปลั๊กไฟ และใช้ Siri สั่งงานได้
  • CloudKit PaaS จากแอปเปิล ให้นักพัฒนาใช้ฟรีแบบจำกัด ให้พื้นที่ 1PB กับฐานข้อมูลขนาด 10TB รับส่งข้อมูลได้จำกัดรายวัน
  • Metal เอนจินประมวลผลสามมิติสำหรับเกม เร็วกว่า OpenGL เป็นสิบเท่า ออกแบบมาสำหรับเครื่องที่ใช้ชิป Apple A7 โดยเฉพาะ พร้อมกับประกาศว่ามีค่ายเกมใหญ่กำลังทำเกมพรีเมียมลง iOS แล้ว
  • SceneKit และ SpriteKit ตัวเรนเดอร์สามมิติ และสองมิติตัวใหม่
  • Swift ภาษาใหม่สำหรับนักพัฒนาที่ใช้ Xcode

iOS 8 จะปล่อยรุ่นเบต้าวันนี้ และจะปล่อยรุ่นจริงในช่วงปลายปี ทุกรุ่นที่อัพเดต iOS 7.1 ได้ยกเว้น iPhone 4 จะได้ไปต่อครับ

ที่มา: Blognone

Xcode 6 เปิดให้นักพัฒนาทำแอพสำหรับอุปกรณ์ iOS หน้าจอหลายขนาดได้แล้ว

Xcode 6 ซึ่งมาพร้อมกับ iOS Simulator ใหม่ ให้นักพัฒนาสามารถทดลองรันแอพพลิเคชันของตัวเองได้ตอนนี้มีคุณสมบัติที่ทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพให้กับอุปกรณ์ iOS ในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone 6 ที่จะมีขนาดหน้าจอ 4.7 และ 5.5 นิ้ว
ถึงแม้ว่ายังไม่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆ อย่างเป็นทางการจากแอปเปิล นักพัฒนาในตอนนี้สามารถที่จะเลือกสร้างหน้าจอ iPhone หรือ iPad ที่มีขนาดความละเอียดใดก็ได้ ในการทดสอบแอพ

ข้อดีของความสามารถใหม่นี้ของ Xcode คือนักพัฒนาสามารถเตรียมตัวแอพของตัวเอง ให้รองรับกับอุปกรณ์ใหม่ๆ จากแอปเปิลได้เร็วกว่าเดิมมาก ต่างจากสมัยที่แอปเปิลเปลี่ยนจาก iPhone 4s มา iPhone 5 ที่ผู้ใช้หลายรายต้องทนใช้แอพที่มีขนาดไม่เต็มจออยู่พักหนึ่ง

ที่มา: Blognone

Git 2.0 ออกแล้ว

Junio C Hamano ผู้ดูแลคนสำคัญของโครงการ Git ประกาศว่า Git รุ่น 2.0 ออกแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงในรุ่นนี้ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ให้ผู้ใช้เดิมสังเกตได้ แต่สำหรับผู้ใช้ใหม่จะได้รับความสะดวกมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของการ push ที่เปลี่ยนจาก matching ไปเป็น simple อ่าน release note สำหรับรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด

ขณะนี้หน้าดาวน์โหลดยังเป็นเวอร์ชันเก่าอยู่ อยากได้ต้อง build เองครับ

ที่มา: Blognone

Microsoft สาธิตโปรแกรมต้นแบบ Skype Translator แปลภาษาขณะสนทนา แม้คุยต่างภาษากัน

ในงาน Code Conference โดยทีมงาน Re/code ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซีอีโอ Satya Nadella (สัตยา นาเดลลา) จาก Microsoft นำทีม Skype ออกมาสาธิตโปรแกรมต้นแบบ Skype Translator แปลภาษาขณะสนทนา แม้คุยต่างภาษากัน


คุณสมบัติในขั้นต้นเป็นส่วนของโปรแกรม Skype โดยความสามารถหลักคือ การแปลภาษาให้กับคู่สนทนาที่ใช้ภาษาต่างกัน ได้แบบเรียลไทม์ เมื่อฝ่ายหนึ่งพูดประโยคใดออกมา โปรแกรมจะแปลคำพูดให้ออกมาเป็นภาษาที่ให้อีกฝ่ายเข้าใจ ในลักษณะคำบรรยายใต้ภาพ เหมือนซับไตเติ้ลในขณะที่เราดูภาพยนตร์ Soundtrack นั่นเองครับ ซึ่ง Microsoft ตั้งเป้าเปิดตัวเวอร์ชั่น Beta ก่อนสิ้นปีนี้

นอกจากการพัฒนาการแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์บนโปรแกรม Skype แล้ว ในอนาคตข้างหน้าทาง Microsoft กล่าวว่าจะต่อยอดไปยังบริการอื่นๆ โดยเฉพาะฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงอย่าง Cortana บน Windows Phone นอกจากนี้ Microsoft ยังวางแผนเปิดตัว Skype บนแพลตฟอร์ม OS X ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

ที่มา: ARiP

ประกาศรายชื่อ 5 ทีมสุดท้ายของโครงการ dtac Accelerate ปีที่สอง

ประกาศโครงการ dtac Accelerate ปีที่สองไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วันนี้ dtac ได้ห้าทีมสุดท้ายที่เข้ารอบของโครงการนี้เพื่อเข้าอบรม intensive boot camp เป็นเวลา 90 วันจากที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ก่อนจะไปโชว์จริงในวันเดโมช่วงเดือนสิงหาคมนี้

โดยห้าทีมที่ผ่านเข้ารอบมีดังนี้ครับ
  • Anywheretoclaim แอพสำหรับช่วยเจ้าของรถเคลมประกันได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเจออุบัติเหตุในรูปแบบใดก็ตาม
  • FastInFlow ผู้ชนะจากโครงการเมื่อปีก่อน (dtac บอกว่าเป็นคนละโครงการกัน ลงแข่งได้) ผู้พัฒนาแอพสำหรับนักการตลาดสำหรับหา Consumer Insight ของลูกค้าในเวลาเพียง 5 นาที
  • Piggipo แอพบริหารการใช้จ่ายบัตรเครดิต ตรวจสอบยอดการใช้เงินในบัตรเครดิตได้ตลอดเวลา พร้อมแจ้งเตือนวันจ่ายได้
  • Drivebot ทีมพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูลยานพาหนะเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ มีทั้งฮาร์ดแวร์ที่ฝังเข้าไปในยานพาหนะ และตัวแอพสำหรับดูข้อมูลบนสมาร์ทโฟน เคยลงแข่งขันในงาน Echelon 2014 มาแล้ว
  • StoryLog ทีมสุดท้ายผู้พัฒนาแพลตฟอร์มความบันเทิง ผู้บอกว่าตัวเองคือโซเชียลเน็ตเวิร์คของการแบ่งปันเรื่องราวในชีวิต แสดงความรู้สึกได้ทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง (ดูตัวอย่างได้จากแฟนเพจของ StoryLog)
สำหรับทั้งห้าทีมที่ผ่านเข้ารอบ จะได้รับเงินลงทุนเริ่มต้นทีมละ 500,000-1,500,000 บาท และได้เข้าเวิร์คช็อปที่บินตรงมาจากซิลิคอนวัลเลย์ เข้าร่วมโครงการ Blackbox Connect เป็นเวลาสองสัปดาห์ และเดินทางไปนำเสนอผลงานทั้งสิงคโปร์ และญี่ปุ่น รวมถึงได้รับการสนับสนุนทางการตลาดจาก dtac และบริษัทลูกในเครือเทเลนอร์ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 150 ล้านรายทั่วโลกอีกด้วย


ที่มา: Blognone

Facebook เพิ่มปุ่มเอาไว้ถาม “โสด” หรือ “มีแฟนแล้ว”

Facebook ได้เปิดตัวปุ่ม Ask สำหรับไว้กดขอข้อมูลของเพื่อนบน Facebook ในส่วนสถานะความสัมพันธ์โดยเฉพาะอยากรู้ว่าโสดมั๊ย หรือว่าคบใครอยู่ เพียงกดปุ่ม Ask ปุ่มเดียว รู้ผล ตอนที่ถามก็ส่งข้อความไปหยอดๆ ได้ด้วย สำหรับใครที่มีคนถามมาบ่อยๆ ก็สามารถเปิดเผยข้อสถานะความสัมพันธ์ได้ โดยอาจจะไม่ต้องเปิดเป็นสาธารณะ แต่เปิดให้เฉพาะเพื่อนในกลุ่มเห็นก็ได้ว่าเรากำลัง In relationship กับใครอยู่


ปุ่ม Ask นี่จะอยู่บนหน้าโปรไฟล์ของเพื่อนเรา ใครที่เรายังไม่ได้เป็นเพื่อนด้วย ก็จะไม่มีปุ่ม Ask ให้กดถามเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Facebook  ซึ่งนอกจากข้อมูลเรื่องความสัมพันธ์แล้ว เราสามารถ Ask กับข้อมูลส่วนอื่นๆ ได้ เช่น เมืองที่เกิด อีเมล์ รวมไปถึงเบอร์โทรศัทพ์ ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ

ที่มา: www.i3.in.th

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หรูเข้าไปอีก ตำรวจจราจรดูไบกำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจดูไบให้สัมภาษณ์กับ GulfNews ว่าแว่นตาอัจฉริยะของกูเกิล กำลังถูกทดสอบโดยกรมตำรวจเพื่อใช้ในส่วนงานจราจร สำหรับตรวจหารถที่กำลังเป็นที่ต้องการของทางการ และใช้ในการจับและปรับผู้ขับขี่ผิดกฎหมาย โดยทางกรมตำรวจได้พัฒนาแอพพลิเคชันสองตัว สำหรับรองรับการใช้งานดังกล่าว


Google Glass สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหารถที่เป็นที่ต้องการ ได้ด้วยการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมตำรวจจราจร เมื่อเจ้าหน้าที่มองไปที่ทะเบียนรถ และถ่ายรูปจุดเกิดเหตุของการกระทำผิดกฎ ซึ่งจะถูกอัพโหลดขึ้นระบบโดยอัตโนมัติ พร้อมวันเวลาและพิกัดสถานที่เกิดเหตุ และหาก Google Glass ผ่านเกณฑ์การทดสอบและเกิดประโยชน์ในการใช้งานจริง ทางกรมตำรวจจึงจะสั่งซื้อ Google Glass และเริ่มให้เจ้าหน้าที่ใช้

สงสัยแค่เฟอร์รารีและลัมโบร์กินีคงไม่ทำให้งบประมาณของกรมตำรวจดูไบร่อยหรอลงไปสักเท่าไหร่

ที่มา: Blognone

eBay โดนแฮ็ก ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านกันด่วน


eBay ออกมาประกาศว่าค้นพบการโจมตีและขโมยข้อมูลของผู้ใช้ระหว่างเดือน ก.พ. - มี.ค. ปีนี้ โดยข้อมูลที่ถูกขโมยมีตั้งแต่ชื่อผู้ใช้ อีเมล รหัสผ่านที่เข้ารหัสแล้ว วันเกิด ที่อยู่ แต่ข้อมูลทางการเงิน (เช่น บัตรเครดิตหรือ PayPal) ที่ถูกเก็บแยกอยู่อีกฐานข้อมูลหนึ่งนั้นปลอดภัย

eBay บอกว่ายังไม่พบการล็อกอินที่น่าสงสัย แต่ก็แนะนำให้ผู้ใช้ eBay ทุกคนเปลี่ยนรหัสผ่าน และจะเริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้ทางอีเมลและช่องทางอื่นๆ ให้เปลี่ยนรหัสผ่านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

จากการสอบสวนพบว่าการโจมตีครั้งนี้เริ่มจากล็อกอินของพนักงาน eBay จำนวนหนึ่ง ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถเข้ามาใช้เครือข่ายภายในบริษัทได้

ที่มา: Blognone