วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

แอพ Uber จะให้บริการในไทยอีกแค่ 2 สัปดาห์, คนขับ Uber ต้องลงทะเบียนกับ Grab ใหม่

จากข่าวดังประจำวัน Grab ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Uber ใน Southeast Asia ในอีเมลประกาศข่าวของ Uber/Grab ระบุว่าแอพ Uber จะให้บริการต่อไปอีก 2 สัปดาห์ จนถึงแค่วันที่ 8 เมษายน 2561

คนขับในระบบของ Uber จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ Grab ใหม่อีกครั้ง โดยข้อมูลในบัญชีของ Uber ของทั้งคนขับและผู้โดยสารจะถูกย้ายมายัง Grab โดยอัตโนมัติ

ส่วนแอพ UberEats จะให้บริการจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 จากนั้นข้อมูลรายชื่อผู้จัดส่งและร้านอาหาร จะถูกโอนไปยังแอพของ Grab (GrabFood) เช่นกัน

Grab ยังประกาศว่าจะขยายบริการ GrabFood ไปยังทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Grab มีธุรกิจอยู่ ภายในช่วงกลางปีนี้


เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น แกร็บและอูเบอร์จะทำงานร่วมกันในการย้ายฐานข้อมูลรายชื่อคนขับ และผู้โดยสารจากแอพพลิเคชั่นอูเบอร์ รวมไปถึงลูกค้าที่สั่งอาหาร ผู้จัดส่ง และพันธมิตรร้านอาหารจากแอพพลิเคชั่นอูเบอร์อีทส์ ไปยังแพลตฟอร์มของแกร็บ โดยแอพพลิชั่นอูเบอร์จะให้บริการต่อไปอีกเป็นเวลาสองสัปดาห์ เพื่อให้เวลาแก่คนขับในการเข้าไปลงทะเบียนสมัครกับแกร็บทางช่องทางออนไลน์ที่ www.grab.com/th/comingtogether ในส่วนแอพพลิเคชั่นอูเบอร์อีทส์นั้น จะให้บริการต่อไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 และหลังจากนั้นข้อมูลรายชื่อผู้จัดส่งและพันธมิตรร้านอาหารก็จะถูกถ่ายโอนไปยังแอพพลิเคชั่นของแกร็บ
 
ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

GitLab ซอฟต์แวร์ CI/CD ชื่อดัง เปิดให้เชื่อมต่อกับ GitHub โดยตรงแล้ว

GitLab ซอฟต์แวร์จัดการโครงการชื่อดัง ประกาศออกเวอร์ชันใหม่ 10.6 ที่สามารถทำงานร่วมกับซอร์สโค้ดที่เก็บบน GitHub ได้แล้ว

GitLab เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นจาก Git โดยมีหน้าที่สองส่วนคือเก็บซอร์สโค้ด (repository) และการจัดการโครงการ (CI/CD ย่อมาจาก continuous integration and continuous delivery)

ที่ผ่านมา GitLab ต้องการให้ลูกค้าเก็บซอร์สโค้ดไว้บนโฮสต์ของตัวเอง แต่ในความเป็นจริง ผู้ใช้อาจเก็บซอร์สโค้ดไว้กับผู้ให้บริการรายอื่นๆ อยู่แล้ว และไม่อยากเปลี่ยนมาเก็บบน GitLab ทำให้สุดท้าย GitLab ต้องยอมเปิดกว้าง ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่นมากขึ้น

แนวทางของ GitLab จะเริ่มจากโฮสติ้งยอดนิยมอย่าง GitHub ก่อน แต่เปิดกว้างให้เชื่อมกับรายอื่นๆ (เช่น BitBucket) ผ่าน API ได้เช่นกัน


การเปิดกว้างของ GitLab ทำให้โครงการโอเพนซอร์สที่อยู่บน GitHub สามารถใช้บริการ CI/CD เวอร์ชันฟรีของ GitLab ได้ทันที ส่วนลูกค้าองค์กรที่ใช้ GitHub เวอร์ชันเสียเงินก็จะได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อนี้เช่นกัน

ฟีเจอร์อีกอย่างใน GitLab 10.6 คือการเชื่อมต่อกับ Kubernetes ที่แนบแน่นขึ้น ช่วยให้การ deploy โค้ดจาก GitLab ไปยังเครื่องคลัสเตอร์ที่รันด้วย Kubernetes สะดวกมากเพียงแค่คลิกเดียว

ที่มา: Blognone

Google Play เพิ่มฟีเจอร์ Instant Apps ทดลองเล่นเกม ก่อนโหลดแอพฯ

Google เปิดตัวฟีเจอร์ Instant Apps ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดลองเล่มเกมหรือใช้แอพฯ บน Google Play ได้ทันที โดยไม่ต้องโหลดและติดตั้งให้เสียเวลา


จำนวนแอพฯ ใน Google Play มีมากมายเหลือคณา โดยเฉพาะแอพฯ เกม แต่ปัญหาส่วนมากที่หลายคนเจอคือ “ไม่รู้จัก” พอไม่รู้จัก ก็ไม่รู้ว่าจะโหลดมาดีไหม กลัวจะไม่สนุกแล้วเสียเวลาเปล่า จนในงาน Google Developer Day ประจำปี 2018 ทาง Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ที่มาช่วยแก้ปัญหาโดยเฉพาะคือ

Google Play Instant หรือ Instant Apps เป็นฟีเจอร์ขอทดลองใช้แอพฯ หรือ Play Demo เกมบน Google Play ทันที โดยไม่ต้องรอโหลดและติดตั้งให้เสียเวลา ส่วนลักษณะฟีเจอร์ จะมาเป็นปุ่ม “Try Now” ข้าง ๆ ปุ่มโหลดแอพฯ ให้เรากดเพื่อทดลองใช้แอพฯ หรือเล่นนั้นๆ ก่อนโหลดได้เลย ปัจจุบันเริ่มมีบางแอพฯ บางเกมรองรับฟีเจอร์นี้แล้ว และจะมีมากขึ้นในอนาคต

ส่วนหน้าตาการใช้งาน Instant Apps เป็นไง ลองดูคลิปนี้เลยครับ


ที่มา: ARiP

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561

Amazon แซง Alphabet (Google) เป็นบริษัทมูลค่ากิจการสูงสุดในโลกอันดับที่ 2 แล้ว

เมื่อคืนนี้หลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐ Amazon ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Capitalization) สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว แซงหน้า Alphabet บริษัทแม่กูเกิล

มูลค่ากิจการของ Amazon อยู่ที่ 7.633 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Alphabet มีมูลค่ากิจการ 7.630 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาหลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด หุ้นของ Amazon ก็มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ Alphabet ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่า

ตอนนี้ Amazon ก็ขึ้นมาเป็นเบอร์สองแล้ว ด่านถัดไปก็คือแอปเปิล ที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลกมาตั้งแต่ปี 2011 โดยมูลค่ากิจการล่าสุดของแอปเปิลคือ 8.92 แสนล้านดอลลาร์


ที่มา: Blognone

รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิตรายแรก

รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ได้ชนคนเดินเท้ารายหนึ่งเสียชีวิตในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ Uber ระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนทางสาธารณะทั้งหมดแล้ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเทมพี รัฐแอริโซนา ช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยรายงานของตำรวจระบุว่า ขณะเกิดเหตุ รถยนต์ของ Uber กำลังทำงานในระบบไร้คนขับ แต่ยังมีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วย ในขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินข้ามถนนนอกทางข้าม

โฆษกของ Uber ได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนเหตุการณ์นี้

ก่อนหน้านี้ได้มีอุบัติเหตุในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบ้าง เช่นอุบัติเหตุรถยนต์ไร้คนขับของ Uber ที่เมืองเดียวกันนี้เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มตัว (หากไม่นับอุบัติเหตุที่เกิดจากระบบ autopilot ของ Tesla ที่ผู้ผลิตเน้นว่าเป็น "ระบบช่วยขับ") การที่มีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุจากรถยนต์ไร้คนขับ น่าจะชะลอความพยายามผลักดันกฎหมายรองรับรถยนต์ไร้คนขับ และกดดันให้รัฐบาลควบคุมการทดสอบการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับอย่างเข้มงวดมากขึ้น

ที่มา: Blognone

รวดเร็วเหลือเกิน Java 10 มาแล้ว จากนี้จะออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน

รวดเร็วปานจรวด เพียง 6 เดือนหลังจาก Java SE 9 ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็ได้เวลาของ Java SE 10 ครับ


การออก Java 10 อยู่ภายใต้นโยบายใหม่ของ Oracle ที่จะออก Java รุ่นใหม่ทุก 6 เดือน ลักษณะเดียวกับที่เราเห็นในซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สหลายโครงการ โดย Java 10 ถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ระบบออกรุ่นแบบใหม่นี้ และมีเลขเวอร์ชันอีกแบบคือ 18.3 (ปี.เดือน)

ของใหม่ใน Java 10 ย่อมมีน้อยลงจากการเปลี่ยนรุ่นใหญ่ครั้งก่อนๆ แต่ก็มีฟีเจอร์ย่อยๆ รวมทั้งหมด 12 อย่าง โดยเน้นไปที่เรื่องแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์ของตัวภาษา และประสิทธิภาพของคอมไพเลอร์ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้จาก JDK 10 ขนาดไฟล์ประมาณ 190MB


อีก 6 เดือนหน้า กันยายน 2018 ก็เตรียมพบกับข่าว Java 11 (18.9) ซึ่งจะเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) ด้วย

ที่มา: Blognone

อรรถรสพุ่งพรวด! ชม Street Fighter แบบฟัดกันจริงบนถนน ด้วยการเล่นผ่านระบบ AR

Abhishek Singh เป็นนักพัฒนาที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ และเทคโนโลยี AR ดูจะเป็นอะไรที่ดึงดูดใจเขาเอามากๆ หนึ่งในงานทดลองทำเล่น (แต่ไม่แน่ว่าอาจจะได้ทำขายกันจริงสักวัน) คือการสร้างเกมที่ใช้ระบบ AR แต่เกมที่ว่าไม่ใช่เกมแนวท่องโลกทำภารกิจแบบ Pokemon Go หากแต่เป็นเกมต่อสู้ Street Fighter

Singh สร้างเกม Street Fighter II ขึ้นมาใหม่ ตัวเกมดั้งเดิมนั้นออกมาตั้งแต่ปี 1991 และได้รับความนิยมไปทั่วโลก Singh เลือกเอาเกมเวอร์ชั่นนี้มาทำใหม่ให้เล่นได้กับ ARKIt ของ Apple โดยนำเอาโมเดลตัวละครแบบ 3 มิติจาก Street Fighter IV มาใช้ในเกม (เพราะ Street Fighter II ไม่มีโมเดล 3 มิติ) แต่ยังใช้เพลงประกอบจาก Street Fighter II เช่นเดิม


Street Fighter เวอร์ชั่น AR นี้สามารถเล่นแข่งกัน 2 คนได้ การควบคุมตัวละครนั้นก็เหมือนเกมต้นฉบับ แต่สิ่งที่แตกต่างคือภาพมุมมองที่ได้รับผ่านหน้าจอของผู้เล่น เพียงแค่เลือกพื้นที่เหมาะๆ อาจจะเป็นลานกว้างกลางแจ้ง, โต๊ะว่างๆ ไร้สิ่งของวางเกะกะ หรือมุมโล่งๆ ภายในบ้าน ก็สามารถจะเปลี่ยนมันเป็นลานประลองของยอดนักสู้ในเกมได้ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่นี่เป็นแค่การทดลองสาธิตความเป็นไปได้ในการสร้างเกมกับ ARKit เนื่องจากงานนี้ไม่ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการจาก Capcom เจ้าของเกมต้นฉบับ Singh เองยังลังเลที่จะทำเกม Street Fighter เวอร์ชั่น AR นี้ให้สมบูรณ์ เพราะ Capcom ก็มีแผนที่จะทำเกมข้ามแพลตฟอร์ม และอาจจะทำเกมแบบ AR ของตัวเองออกมาในอนาคต


อันที่จริงแล้ว Singh เคยสร้างผลงานเกมแบบ AR ที่น่าสนใจ อย่างเมื่อปีที่แล้ว เขาได้สร้างเกม Super Mario Bros แบบเล่นด้วย HoloLens มาครั้งนี้กับการสร้างเกมให้เล่นได้ด้วย iPhone ยิ่งดูน่าสนใจและเท่ากับเปิดประตูแห่งโอกาสในการพัฒนาเกมเพื่อการพาณิชย์ได้จริงจังกว่าที่เคย

ที่มา: Blognone

น่าเศร้า เด็กชายวัย 9 ขวบคว้าปืนยิงพี่สาวเสียชีวิต เหตุแย่งจอยเกม

หลังจากที่ประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธปืนและความรุนแรงจากการเล่นเกมได้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักในสหรัฐอเมริกา ล่าสุด ได้มีเหตุการณ์ที่น่าจะจุดประเด็นร้อนนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสื่อท้องถิ่นของรัฐมิสซิสซิปปี้ ได้รายงานข่าวว่า มีคดีเด็กชายวัย 9 ขวบยิงพี่สาววัย 13 ปีเสียชีวิต ด้วยสาเหตุการทะเลาะกันจากการแย่งจอยเล่นเกม

Cecill Cantrell นายอำเภอของเทศมณฑล Monroe ให้สัมภาษณ์ว่า จากรายงานที่ได้รับเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา เด็กสาวปฏิเสธที่จะให้จอยเกมแก่น้องชาย ทำให้เด็กชายหยิบปืนมายิงเธอจากทางด้านหลัง

กระสุนผ่านทะลุสมองของเธอ เด็กสาวถูกนำส่งโรงพยาบาลในอาการสาหัส ก่อนเสียชีวิตในวันอาทิตย์

การสืบสวนของคดีนี้จะมุ่งเป้าไปที่เด็กชายสามารถเข้าถึงปืนได้อย่างไร และ เขารับรู้ถึงความอันตรายของการใช้ปืนมากขนาดไหน

ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561

Elon Musk อยากให้แบ่งมนุษย์ไปอยู่ดาวอังคารเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์, ย้ำประเด็นความอันตรายของ AI

Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX ได้ไปพูดในงานสัมมนา SXSW (South by Southwest) ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยนอกจากจะปล่อยวิดีโอจากภารกิจยิงจรวด Falcon Heavy แล้ว เขายังพูดถึงประเด็นอื่นๆ อีก ดังนี้

Elon เล่าถึงการที่เขาอยากไปตั้งฐานบนดาวอังคารและดวงจันทร์ เพื่อให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถคงอยู่ต่อไปได้หากเราเข้าสู่ยุคมืด (dark ages) ซึ่งเขาไม่ได้ทำนายว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่ก็มีโอกาส โดยเฉพาะถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ทำให้การที่มนุษย์ไปตั้งรกรากอยู่ดาวอื่นจะทำให้มี “เมล็ดพันธุ์” ของพวกเรามากพอที่จะดำรงความเจริญอยู่ได้ รวมถึงนำความเจริญกลับมายังโลก หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

เขาระบุว่าในยุคแรกที่มนุษย์ไปอาศัยอยู่บนดาวอังคารจะยากลำบากและอันตรายมาก รวมถึงมีโอกาสสูงที่คนเหล่านั้นจะตายลง นอกจากนี้ยังพูดถึงการปกครองบนดาวอังคารว่าน่าจะเป็นประชาธิปไตยทางตรง (Direct democracy) คือประชาชนโหวตให้ความเห็นในเรื่องใดๆ ก็ตาม แทนที่จะกระทำผ่านรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชน อีกทั้งเขายังแนะนำให้เขียนกฎหมายเพียงสั้นๆ โดยให้ความเห็นว่ากฎหมายที่ยาวนั้นน่าสงสัย


อีกเรื่องหนึ่งที่ Elon แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนมายาวนานคือเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งเขาก็ได้ใช้เวทีในงาน SXSW นี้ย้ำประเด็นเดิมอีกว่าเขามีความใกล้ชิดกับ AI ระดับสุดยอด (cutting edge AI) และมันทำให้เขา “กลัวจนหัวหด” (it scares the hell out of me) และมันมีความสามารถสูงกว่าที่คนส่วนมากรู้ รวมถึงอัตราการพัฒนาก็สูงแบบก้าวกระโดด (exponential) เขาให้ความเห็นว่าเราต้องหาทางทำให้ AI อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ และนี่จะเป็นวิกฤตการณ์ของความอยู่รอด (existential crisis) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราจะเจอ และสุดท้าย Elon ระบุว่า “จำคำผมไว้เถอะ AI นั้นอันตรายกว่าอาวุธนิวเคลียร์มาก”

ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561

เที่ยวทุกซอกทุกมุมของสวนสนุกดิสนีย์ 11 แห่งบน Google Maps Street View ได้แล้ว

Google เผยได้เพิ่มสวนสนุกดิสนีย์ 11 แห่งในสหรัฐฯ บน Google Maps Street View ให้ผู้ใช้เข้าชมเจาะลึกทุกโซนได้แบบ 360 องศา

ตัวอย่างโซนเด่นๆ ที่ผู้ใช้จะได้ชมแบบใกล้ชิดคือ Pandora the world of Avatar, Epcot, Epcot Morocco, Magic Kingdom, Disney Springs, California Adventures, Guardians of the Galaxy, Mickey and Minnie’s houses, Disney Hollywood Studios, Disney’s Typhoon Lagoon water park

คนทั่วไปสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ Street View เพื่อกดดูสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญในสวนสนุกต่างๆ ได้แบบใกล้ชิด และถ้าวันหนึ่งได้ไปเที่ยวในสถานที่จริง ก็สามารถใช้ Google Maps Street View ดูตำแหน่งสำคัญล่วงหน้าได้


ที่มา: Blognone