ตัวอย่างหนึ่งของการปะผุของ Tesla คือในปี 2021 มียูทูบเบอร์ช่อง Tesla Raj
ลองนำรถไปขับบนถนนซิกแซก Lombard Street ที่โด่งดังของเมืองซานฟรานซิสโก
ปรากฎว่ารถยนต์ Tesla มีปัญหา เหตุการณ์จากคลิปนี้ทำให้วิศวกรของ Tesla
"ออกแพตช์แก้" สร้างบาเรียที่มองไม่เห็นมาป้องกันไม่ให้รถไปชนขอบถนน
Lombard Street
อดีตผู้บริหาร Tesla รายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่าการแก้บั๊กตามคำสั่งของ Elon
เปรียบเสมือนโดนเสือวิ่งไล่
ซึ่งคนที่โดนเสือวิ่งไล่ไม่มีทางนำเสนอทางแก้ดีๆ ในระยะยาวได้หรอก
การที่ Elon หันไปสนใจเรื่อง Twitter ยังทำให้เขาให้ความสำคัญกับ Tesla
น้อยลงตามไปด้วย วิศวกรของ Tesla จำนวนมากถูกโยกไปทำงานให้ Twitter แทน
ผลคือกระบวนการพัฒนาช้าลง อัพเดตที่เคยออกทุกสองสัปดาห์
ยืดเวลากลายมาเป็นหลักเดือนแทน พนักงานบางคนเลือกลาออกไปอยู่กับ Waymo
เพราะ "อย่างน้อยก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่ารถหยุดที่ป้ายหยุดจริงๆ หรือเปล่า"
ลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อระบบ FSD ในราคาแพง 15,000 ดอลลาร์ ก็ไม่พอใจที่
Tesla ไม่สามารถทำได้อย่างที่ Elon เคยสัญญาไว้
ลูกค้ารายหนึ่งที่เป็นเจ้าของ Model Y บอกว่าคนซื้อ FSD
คาดหวังว่าตอนนี้รถยนต์ของตัวเองควรขับได้เองเป็น robotaxi ได้แล้ว
แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่แบบนั้น
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัท Meta เพิ่งขึ้นราคา Meta Quest 2
ทั้งสองรุ่นความจุ จากเดิม 299 และ 399 ดอลลาร์ เป็น 399 และ 499
ดอลลาร์ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
ส่วนการรอบนี้คือลดราคา Quest 2 เฉพาะรุ่น 499 ดอลลาร์ลงมาเหลือ 429
ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่าเป้าหมายคือการสร้างแว่น VR
ที่เข้าถึงได้กว้างที่สุด (affordable for as many people as possible)
และไม่พูดเรื่องต้นทุนแล้ว