วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เปิดราคารถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ในไทย 1,190,000 บาท

เรียกว่าเป็นกระแสกันมานาน สำหรับ MG ZS EV ภาคต่อของ MG ZS ที่ขณะนี้ออกมาเป็นเวอร์ชันรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแล้ว

ล่าสุด MG ประเทศไทยได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นดังกล่าวแล้วที่ราคา 1,190,000 บาท โดยมีวางจำหน่ายรุ่นเดียว ไม่มีรุ่นย่อยใดๆ

MG ZS EV ที่จำหน่ายในประเทศไทยติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 44.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 337 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (วัดตามมาตรฐาน NEDC) มีกำลัง 150 แรงม้า, แรงบิด 350 นิวตันเมตร

การชาร์จไฟจะมีสองโหมดคือชาร์จแบบปกติผ่านตู้ชาร์จ MG Home Charger ใช้เวลา 6.5 ชั่วโมง และชาร์จด่วนตามสถานีชาร์จสาธารณะได้ 80% ในเวลา 30 นาที ส่วนการชาร์จจากปลั๊กไฟบ้านก็สามารถทำได้แต่คาดว่าจะใช้เวลานานมาก

การรับประกันคุณภาพอยู่ที่ 4 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ MG ระบุว่าการรับประกันเงื่อนไขนี้เป็น Welcome Package และยังไม่แน่ชัดว่าปกติแล้วจะมีการรับประกันให้กี่ปี

นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อรถ 1,000 คันแรกจะได้รับตู้ชาร์จ MG Home Charger มูลค่า 45,000 บาทโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงได้ประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปีไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย


ที่มา: Blognone

Kubernetes 1.15 ออกแล้ว ปรับปรุงความสามารถใหม่ 25 ประการ

ทีมพัฒนา Kubernetes ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Kubernetes 1.15 แล้ว โดยมีการปรับปรุงใหม่ 25 ส่วนด้วยกัน ซึ่งในการปรับปรุงครั้งนี้ มี 2 รายการที่เข้าสู่สถานะ Stable, 13 รายการที่เข้าสู่สถานะ Beta และอีก 10 รายการที่เข้าสู่สถานะ Alpha โดยหากจำแนกในภาพรวมแล้ว อัปเดตครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 2 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

  • การปรับปรุงระบบโดยรวม โดยแต่ละทีมย่อยนั้นได้มีการพัฒนา Test ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อให้ระบบมีความเสถียรสูงขึ้น
  • การรองรับการทำงานร่วมกับระบบใหม่ๆ โดยมีการเพิ่มความสามารถให้กับ Custom Resource Definition (CRD) และ API Machinery เป็นหลัก
ในส่วนของ CRD นี้จะมุ่งเน้นไปที่การจัดการด้าน Data Consistency และปรับปรุง Native Behavior ของระบบ และได้มีการปรับปรุง Cluster Lifecycle ให้มีความมั่นคงทนทานสูงขึ้นและใช้งานง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ kubeadm ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสามารถใหม่ๆ และทนทานมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีโลโก้ใหม่เป็นของตัวเองแล้ว

ส่วน Container Storage Interface (CSI) นั้นก็สามารถทำการ Migrate ในส่วนของ In-tree Volume Plugin มายัง CSI ได้แล้ว และยังได้รับการเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ มากมาย

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ https://github.com/kubernetes/kubernetes/blob/master/CHANGELOG-1.15.md#kubernetes-v115-release-notes และสามารถใช้งาน Kubernetes 1.15 ได้แล้วที่ https://github.com/kubernetes/kubernetes/releases/tag/v1.15.0

ส่วนผู้ที่อยากเริ่มต้นกับ Kubernetes สามารถเรียนรู้ได้ที่ https://kubernetes.io/docs/tutorials/ ครับ

ที่มา: TechTalk

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562

มาดูกันซิ!! ว่า iOS 13 และ iPadOS 13 มีฟีเจอร์ไหนที่ยืมมาจาก Android บ้าง??



หลังจากที่ iOS 13 และ iPadOS 13 เปิดตัวในงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ปล่อยความสามารถใหม่ๆ ออกมาจำนวนมาก โดยมีบางฟีเจอร์อาจจะคล้ายๆ หรือยืมไอเดียมาจากฝั่ง Android ด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีฟีเจอร์ไหนบ้างที่ยืมมา

การรองรับ OTG USB

 

ฟีเจอร์การรองรับ OTG นี้ มีใน Android มาได้สักพักแล้ว ทำให้การถ่ายโอนไฟล์จากเครื่องลงสู่ Flash Drive หรือ Hard Drive ได้สะดวกแล้วรวดเร็วยิ่งขึ้น โดย Apple จะนำฟีเจอร์นี้มาอยู่บน iPadOS 13 ซึ่งจะทำให้แอปต่างๆ สามารถรับไฟล์ได้โดยตรงจาก Drive หรือ SD Card ได้โดยตรงเลย


Swipe Keyboard หรือ คีย์บอร์ดอัจฉริยะ

 

คีย์บอร์ดนี้ไม่ใช้คีย์บอร์ดแบบธรรมดาๆ โดยทั่วไป คีย์บอร์ดนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถลากนิ้วไปตามตัวอักษรเพื่อพิมพ์เป็นคำหรือประโยคต่างๆ โดยไม่ต้องยกนิ้วจากจอได้ ซึ่งก่อนหน้านี้บน Android ก็มีทั้งที่เป็นคีย์บอร์ดบน Stock Rom และที่เป็นคีย์บอร์ดเสริมจากนักพัฒนาต่างๆ จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้เอง Google ได้ปล่อย Gboard ของ Google ที่มีฟีเจอร์นี้ด้วย ขึ้นไปบน App Store เยือนถึงหน้าบ้าน

และล่าสุดใน iOS 13 และ iPadOS 13 Apple ก็จะนำฟีเจอร์ดังกล่าวมาลงในคีย์บอร์ดดั่งเดิมของตัวเครื่องด้วย

วิดเจ็ตบนหน้าจอโฮม

 


ถึงก่อนหน้านี้จะมีวิดเจ็ตบน iOS ต่างๆ มากมายก็ตาม แต่ผู้ใช้หลายคนอาจจะไม่เคยใช้หรือเห็นหน้าตาของตัววิดเจ็ตเลย เพราะมันถูกแยกไปไว้อีกหน้านึงทำให้ซับซ้อนสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งบน iPadOS นี้ Apple จะนำวิดเจ็ตที่ถูกแยกไปก่อนหน้านี้ให้สามารถมาวางไว้ที่หน้าโฮมได้ โดยคล้ายๆ กับ Android ที่สามารถทำได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว 

 

Dark Mode

 

โหมดที่อันที่จริง Android ก็เพิ่งจะประกาศเปิดตัวฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Android Q ที่จะเปิดให้ใช้กันอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่ว่าก่อนหน้านี้ก็ได้มี OEM หลายรายได้ทำไปก่อนหน้านี้แล้วใน Android Pie ตั้งแต่ปีที่แล้ว


โดยโหมดนี้สำหรับใน iPhone ที่ใช้จอ OLED จะมีประโยชน์มาก ที่จะช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ในพิกเซลที่เป็นสีดำ

Street View

 

ฟีเจอร์นี้จะมาอยู่ใน Apple Maps ในชื่อว่า Look Around หลังจาก Google ได้มีฟีเจอร์นี้บน Google Maps มาเกือบทศวรรษแล้ว และแน่นอนว่าตอนนี้เพิ่งเป็นการเริ่มต้นสิ่งนี้จากฝั่ง Apple ข้อมูลต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้มากเหมือน Google Maps ที่ทำมาหลายปีแล้ว แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่าฟีเจอร์นี้จะพัฒนาไปถึงจุดไหน


ที่มา: Beartai