ฟีเจอร์สำคัญที่ถูกพูดถึงอย่างมากใน iPhone X หนีไม่พ้น “Face ID”
หรือสแกนใบหน้า ระบบรักษาความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์ แทนที่ Touch ID
หรือสแกนลายนิ้วมือ
ซึ่งเชื่อว่ายังมีผู้คนอีกจำนวนมากสงสัยในการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวว่าใช้ได้ผลดีและมีความปลอดภัยจริงหรือไม่? โดยงานนี้ Craig Federighi หนึ่งในทีมผู้บริหารคนสำคัญของ Apple
ออกมาให้ข้อมูลต่อเรื่องนี้ด้วยตัวเองครับ
โดย Craig Federighi ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ TechCrunch
ในประเด็น Face ID ใน iPhone X ซึ่งแอดมินขอสรุปให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆ
ดังนี้ครับ
1. “การสร้าง Face ID” สำหรับ Apple
ได้มีการรวบรวมภาพหลายพันล้านภาพเพื่อสร้างชุดข้อมูลทางภูมิศาสตร์และชาติพันธุ์
ก่อนนำมาทดสอบและตรวจสอบความถูกต้องต่อการรับรู้ของระบบ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไม่ว่าใครก็ไม่สามารถดึงภาพจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ได้
2. การทดลอง Face ID
ได้มีการใช้ใบหน้าจริงเพื่อการจดจำรายละเอียดที่มีความแม่นยำและความถี่สูงจากหลายๆ
มุม และนำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น
3. ลูกค้าที่ใช้ Face ID ขอยืนยันว่า Apple ไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลใบหน้าของลูกค้าแต่อย่างใด
4. Face ID มีคุณสมบัติที่ช่วยให้สามารถจดจำใบหน้าที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้
ไม่ว่าใบหน้านั้นจะเปลี่ยนไปตามช่วงอายุ, ทรงผม, เครา
หรือแม้กระทั่งการทำศัลยกรรม
5. Face ID จะมีรูปแบบการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียว Touch ID ที่เรียกว่า
Secure Enclave ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยภายในชิปประมวลผล
ทำให้มีการจัดเก็บข้อมูลใบหน้า
แต่จะใช้เพียงการแทนค่าทางคณิตศาสตร์เท่านั้น
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อื่นจะทำวิศวกรรมย้อนกลับภาพใบหน้าที่แท้จริงของคุณจากข้อมูลที่จัดเก็บไว้
6. Apple ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
ดังนั้นการเปิดโหมดรักษาความปลอดภัยจะอย่าง Face ID จะบังคับให้ใส่
Passcode ด้วย
7. “ปิดใช้งาน Face ID ยังไง?” ในสถานการณ์คับขัน เช่น
โดนโจรปล้นและบังคับให้คุณส่งมอบไอโฟนให้ ซึ่งใน iPhone 8 / 8 Plus และ
iPhone X เมื่อคุณกดค้างที่ปุ่มด้านข้างทั้งสองด้านไว้สักครู่
ระบบจะปิดการใช้งาน Face ID เป็นวิธีสั้นๆ ง่ายๆ ที่ทำให้โจรไม่สามารถใช้
Face ID หรือ Touch ID ปลดล็อคเครื่องของคุณได้
8. Face ID สามารถสแกนใบหน้าได้ แม้ในที่มืด
9. หากไม่มีการใช้ Face ID นาน 48 ชั่วโมง ระบบจะเริ่มต้นให้ผู้ใช้ใส่ Passcode ใหม่อีกครั้ง
10. หากมีความพยายามปลอมแปลง Face ID จำนวน 5 ครั้ง ระบบจะเริ่มต้นให้ใส่ Passcode แทน
11. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่สามารถเข้าข้อมูลจาก Face ID ได้ แต่สามารถใช้โค้ดบางส่วนที่ Apple อนุญาตสำหรับใช้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ARKit
12. “การสวมใส่แว่นกันแดดไม่ใช่ปัญหา” เนื่องจาก Face ID
มีอินฟาเรดที่สามารถส่องผ่านเลนส์แว่นได้
ทำให้สามารถสแกนใบหน้าได้แม้สวมแว่น
13. ในกรณี “คนตาบอด” จะใช้การจดจำใบหน้าเพียงอย่างเดียว แม้จะใช้งานได้ แต่ประสิทธิภาพของ Face ID จะลดลง
14. หากผู้ใช้ประกอบอาชีพศัลยแพทย์ หรือทำงานที่ต้องใช้ผ้าคลุมปกปิดใบหน้า
Face ID จะไม่สามารถใช้งานได้ แต่หากสวมหมวกหรือใส่ผ้าพันคอการทำงานของ
Face ID ก็จะเป็นไปตามปกติ
15. หากไม่มีการป้อน Passcode นาน 6.5 วัน และไม่ได้ใช้ Face ID นาน 4
ชั่วโฒง ระบบ Face ID จะถูกปิดใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ใส่ Passcode
อีกครั้งหนึ่ง
16. ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการเช็คเวลาหรือดูการแจ้งเตือนเท่านั้น
การจ้องที่หน้าจออาจเป็นการใช้ Face ID เพื่อปลดล็อคและเข้าสู่หน้าโฮม
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว Apple จึงแนะนำให้ผู้ใช้ swip
หน้าจอขึ้นทันทีหลัง Face ID ทำงาน
17. ใช้ Face ID จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องยก iPhone ขึ้นมาตรงหน้า? คำตอบ คือ
ไม่จำเป็น เนื่องจากระบบ Face ID มีการจดจำรายละเอียดต่างๆ
บนใบหน้าอย่างถี่ถ้วน
ดังนั้นไม่ว่าผู้ใช้จะมองผ่านมุมที่สูงหรือต่ำกว่าก็สามารถปลดล็อคหน้าจอได้
ที่มา: ARiP