วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561

เที่ยวทุกซอกทุกมุมของสวนสนุกดิสนีย์ 11 แห่งบน Google Maps Street View ได้แล้ว

Google เผยได้เพิ่มสวนสนุกดิสนีย์ 11 แห่งในสหรัฐฯ บน Google Maps Street View ให้ผู้ใช้เข้าชมเจาะลึกทุกโซนได้แบบ 360 องศา

ตัวอย่างโซนเด่นๆ ที่ผู้ใช้จะได้ชมแบบใกล้ชิดคือ Pandora the world of Avatar, Epcot, Epcot Morocco, Magic Kingdom, Disney Springs, California Adventures, Guardians of the Galaxy, Mickey and Minnie’s houses, Disney Hollywood Studios, Disney’s Typhoon Lagoon water park

คนทั่วไปสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ Street View เพื่อกดดูสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญในสวนสนุกต่างๆ ได้แบบใกล้ชิด และถ้าวันหนึ่งได้ไปเที่ยวในสถานที่จริง ก็สามารถใช้ Google Maps Street View ดูตำแหน่งสำคัญล่วงหน้าได้


ที่มา: Blognone

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561

ทีมวิจัยวิเคราะห์ Smart Contract บน Ethereum พบช่องโหว่กว่า 30,000 สัญญา

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) วิเคราะห์ smart contract บน Ethereum เพื่อหาช่องโหว่ต่างๆ จากทั้งหมดกว่าล้านสัญญา และพบว่ากว่าสามหมื่นสัญญาน่าจะมีช่องโหว่


ช่องโหว่ของ smart contract แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
  1. Prodigal Contract สัญญาที่เปิดให้ใครก็ได้มาโอนเงินออกไป เพราะมีการตรวจสอบไม่ดีพอในบางฟังก์ชั่น
  2. Suicidal Contract สัญญาที่เปิดช่องให้ใครก็ได้มาสั่ง kill สัญญา ทำให้สัญญาใช้งานไม่ได้ และหากมีเงินอยู่ก็ถูกล็อกเอาเงินออกไม่ได้อีกต่อไป ช่องโหว่ประเภทนี้เมื่อปีที่แล้วมีเหตุครั้งใหญ่ คือเหตุการณ์ Parity Wallet
  3. Greedy Contract สัญญาที่มีบั๊กบางอย่าง ทำให้แม้จะส่งเงินเข้ามาได้ แต่กลับนำเงินกลับออกมาไม่ได้เลยไม่ว่าช่องทางใดๆ
นอกจากนี้ทีมงานยังจัดหมวด Posthumous Contracts สัญญาที่ถูก kill ไปแล้วแต่ยังมีคนเผลอโอนเงินเข้าไป ทำให้เงินค้างอยู่ในสัญญา และนำออกมาไม่ได้อีกเลย แต่สัญญาประเภทนี้ไม่ใช่ช่องโหว่ที่ต้องการวิเคราะห์จึงไม่นับรวมไว้

ทีมงานสร้างซอฟต์แวร์วิเคราะห์ไบนารี smart contract สำหรับ EVM บน Ethereum เพื่อวิเคราะห์สัญญา 970,898 รายการ โดยสัญญาเหล่านี้มีซอร์สโค้ดบน Etherscan เพียง 1% เท่านั้น ซอฟต์แวร์ที่วิเคราะห์ไบนารีที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นชื่อว่า MAIAN จะวิเคราะห์หาช่องโหว่สามประเภทหลักดังกล่าว

MAIAN พบว่ามีสัญญาที่น่าจะมีช่องโหว่ 1 ใน 3 ประเภท รวมถึง 34,200 สัญญา ทีมงานวิเคราะห์ผลซ้ำด้วยการตรวจซอร์สโค้ด 3,759 สัญญา พบว่า MAIAN แม่นยำแบบ true positive อยู่ที่ 89% ทำให้คาดได้ว่าสัญญาที่มีช่องโหว่ 1 ใน 3 รูปแบบเหล่านี้ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 รายการ

ช่องโหว่จากความผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมบน smart contract เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ปัญหาคือซอฟต์แวร์ดเหล่านี้ทำงานตลอดเวลาและหลายครั้งไม่สามารถหยุดการทำงานได้แม้มีช่องโหว่ Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum เตือนว่าไม่ควรสร้างสัญญาที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านดอลลาร์

ที่มา: Blognone

Chrome 64 สำหรับวินโดวส์ คอมไพล์ด้วย Clang แทน Microsoft Visual C++ แล้ว

Chrome 64 เปลี่ยนคอมไพล์เลอร์จาก Microsoft Visual C++ (MSVC) มาเป็น Clang ให้เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้แก่ macOS, iOS, Linux, Chrome OS, Android, และ Windows

เหตุผลสำคัญในการเปลี่ยนคอมไพล์เลอร์คือการรวมคอมไพล์เลอร์เข้ามาเป็นตัวเดียวเพื่อลดระยะเวลาการพัฒนาลง เพราะโปรแกรมเมอร์มักคุ้นกับการคอมไพล์บนแพลตฟอร์มที่ตัวเองดูแลอยู่เท่านั้น เมื่อโค้ดคอมไพล์ไม่ผ่านบนแพลตฟอร์มอื่นการแก้ไขก็จะใช้เวลานาน

การปรับมาใช้คอมไพล์เลอร์โอเพนซอร์สอย่าง Clang ยังมีความได้เปรียบคือทีมงาน Chrome สามารถใช้ Clang เวอร์ชั่นที่กำลังพัฒนาอยู่ตรวจสอบได้ว่ามีปัญหากับโค้ดในโครงการหรือไม่ หากมีปัญหาก็พูดคุยกับทีมพัฒนา Clang ได้ทันที ขณะที่ MSVC ต้องรอไมโครซอฟท์ออกเวอร์ชั่นใหม่แต่ละรอบอาจจะนานเป็นปี การใช้คอมไพลเลอร์ตัวเดียวอย่าง Clang ยังเปิดทางให้โปรแกรมเมอร์สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ C++ ได้โดยไม่ต้องรอคอมไพล์เลอร์ทุกตัวรองรับเหมือนกัน

ข้อเสียคือโดยเฉลี่ยแล้ว Clang จะคอมไพล์ได้ไบนารีขนาดใหญ่ขึ้นในบางกรณี โดยเฉพาะไบนารี 32 บิต และประสิทธิภาพการคอมไพล์ในเครื่องเดียวก็ช้าลงประมาณ 15%

แม้จะเปลี่ยนคอมไพล์เลอร์ แต่กระบวนการพัฒนาโดยรวมยังต้องใช้ Visual Studio อยู่ โดย Chrome ใช้ไฟล์ header และเครื่องมืออื่นๆ ของ Visual Studio ต่อไป

ที่มา: Blognone

AIS ประกาศลงทุนใน Rabbit LINE Pay ถอย mPay ออกจากบริการสำหรับคอนซูมเมอร์

AIS แถลงข่าวความร่วมมือครั้งสำคัญของบริการจ่ายเงินผ่านมือถือ mPay กับ Rabbit LINE Pay โดย AIS จะเข้าไปลงทุนในบริษัท Rabbit LINE Pay (ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ Rabbit และ LINE อยู่ก่อนแล้ว)

เป้าหมายของการลงทุนครั้งนี้คือขยาย ecosystem ของทั้งสองแพลตฟอร์มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น กลายเป็น mobile money platform ที่ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า การจ่ายเงินสั่งซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการจ่ายบิลค่าโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ตของ AIS ด้วย เพื่อขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของบริการ payment ในไทย ขณะเดียวกัน Rabbit LINE Pay จะได้รับ "ฐานลูกค้า" ของ mPay เดิมย้ายเข้ามาด้วย

ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ Rabbit LINE Pay ทำหน้าที่ให้บริการคอนซูมเมอร์ทั่วไปที่ใช้งานรับจ่ายค่าบริการต่างๆ แทนที่แอป mPay ที่เคยให้บริการอยู่เดิม โดยหลังจากนี้แอป mPay จะค่อยๆ ลดลงและไปให้บริการกับธุรกิจ (B2B) แทน โดยตอนนี้เองรายได้ส่วนมากของ mPay ก็มาจาก B2B อยู่แล้ว

ในฝั่งของการโอนเงินเข้าสู่ Rabbit LINE Pay ก็จะได้ช่องทางของ AIS เข้ามาเสริมทัพ ไม่ว่าจะเป็นร้าน AIS Shop, Telewiz และช่องทางการเติมเงินของ mPay เดิม


นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ซีอีโอของ AIS บอกว่าความร่วมมือผ่านการลงทุนครั้งนี้ คาดหวังว่าจะสามารถสร้างความสะดวกให้คนไทยมากขึ้น ส่วน Nelson Leung จาก BSS และ VGI ผู้บริหารบัตร Rabbit บอกว่าตอนนี้มีบัตรอยู่ในระบบ 8.5 ล้านใบ และมีร้านค้าที่รองรับการจ่ายเงินกว่า 5,000 ราย

นายอริยะ พนมยงค์ จาก LINE ประเทศไทย บอกว่ามือถือกลายเป็นกระเป๋าเงิน แต่มากกว่านั้น 87% ของคนไทยไม่มีบัตรเครดิต หมายความว่าคนไทยส่วนใหญ่การเข้าถึงการชำระไร้เงินสด ยังเป็นเรื่องยากลำบาก การร่วมมือครั้งนี้จะเข้ามาแก้ตรงนี้ได้


ที่มา: Blognone

Java EE ได้ชื่อใหม่เป็น Jakarta EE เพื่อเลี่ยงการใช้เครื่องหมายการค้า Java

หลังจาก Java EE กลายเป็นโครงการในสังกัดของ Eclipse Foundation และใช้ชื่อโครงการว่า EE4J เพื่อเลี่ยงการใช้เครื่องหมายการค้า Java ที่ยังเป็นของ Oracle

ล่าสุดโครงการ EE4J ประกาศชื่อแบรนด์ใหม่ของ Java EE ว่าเป็น Jakarta EE

กระบวนการตัดสินใจเรื่องชื่อมาจากการนำเสนอของชุมชน ซึ่งมีคนเสนอเข้ามาหลายร้อยชื่อ สองชื่อที่เข้ารอบสุดท้ายคือ Jakarta EE กับ Enterprise Profile และการโหวตตัดสินโดยชุมชน ชื่อ Jakarta EE ชนะด้วยคะแนน 64.4%

ความเชื่อมโยงของชื่อ Java กับ Jakarta คือ Java เป็นชื่อของเกาะชวา ส่วน Jakarta คือเมืองหลวงของอินโดนีเซีย และเป็นเมืองหลักบนเกาะชวานั่นเอง


Eclipse Foundation ยังประกาศชื่อใหม่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EE4J ดังนี้
  • Java EE เปลี่ยนเป็น Jakarta EE
  • Glassfish เปลี่ยนเป็น Eclipse Glassfish
  • Java Community Process (JCP) เปลี่ยนเป็น Eclipse EE.next Working Group (EE.next)
  • การจัดการโครงการที่เคยเป็นหน้าที่ของ Oracle เปลี่ยนชื่อเป็น Eclipse Enterprise for Java (EE4J) และ Project Management Committee (PMC)
ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

[ลือ] Apple จะออก MacBook Air รุ่นใหม่ มีราคาลดลง ขายไตรมาส 2/2018

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำผู้คาดการณ์สินค้าแอปเปิลตัวใหม่ได้แม่นที่สุดตอนนี้ ออกรายงานล่าสุดพูดถึงสินค้าใหม่ที่แอปเปิลจะขายใน 2018 โดยนอกจาก iPhone และ AirPods ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ รายงานฉบับนี้ได้พูดถึง "MacBook Air ที่มีราคาลดลง" เพิ่มเติม

Kuo บอกว่า MacBook Air รุ่นที่มีราคาถูกลงจะวางขายในไตรมาสที่ 2 ปี 2018 และจะทำให้ยอดขาย Mac ภาพรวมเติบโตราว 10-15% โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงสเป็กอย่างไร

MacBook Air รุ่นล่าสุดที่มีจำหน่ายคือรุ่นอัพเกรดสเป็กเล็กน้อยเมื่อปีที่แล้ว เหลือเฉพาะขนาดจอ 13 นิ้ว และไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดด้วย ซึ่งถือว่าแตกต่างจาก MacBook รุ่นอื่น


ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561

SikurPhone สมาร์ทโฟนสาย Cryptocurrency มาพร้อม e-Wallet กับระบบความปลอดภัยระดับสูง

บริษัทสัญชาติเยอมรนี เปิดตัว SikurPhone สมาร์ทโฟนที่มาพร้อม e-Wallet เก็บข้อมูล Cryptocurrency หรือเหรียญออนไลน์ได้ ในระบบความปลอดภัย ที่มั่นใจว่าไม่มีทางเจาะได้ 100% !!


ในขณะที่สมาร์ทโฟนหลายรุ่น ต่างแข่งกันด้านสเปกและดีไซน์อย่างดุเดือด แต่ก็มีบางบริษัท ขอทำสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์เฉพาะ ขายเฉพาะกลุ่มดีกว่า อย่าง Sikur บริษัทที่ให้บริการเรื่องระบบความปลอดภัยจากเยอมรนี ได้เปิดตัว SikurPhone สมาร์ทโฟนสาย Security มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และฟีเจอร์ e-Wallet เก็บข้อมูล Cryptocurrency หรือเหรียญออนไลน์ได้ด้วย พร้อมการันตีว่า ไม่มีทางเจาะได้ 100% !!


สำหรับ e-Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตอล ในที่นี้ก็คือที่เก็บข้อมูลเหรียญออนไลน์นี้เอง ซึ่งสามารถลิงค์เข้าระบบ Cloud ของทาง Sikur โดยตรงได้ด้วย ทั้งนี้ทางบริษัทยังเผยว่า ได้จ้างแฮกเกอร์ (HackerOne) ให้มาลองเจาะข้อมูลใน SikurPhone ดู ผ่านไป 2 เดือน แฮกเกอร์ก็ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปได้

ในส่วนสเปกของ SikurPhone ก็มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD แรม 4GB รอม 64GB กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แบตฯ 2800 mAh ส่วนหน่วยประมวลผลและที่เหลือยังไม่เผย


ท้ายนี้ Sikur ได้เปิดให้สั่งจองตัวเครื่องกันแล้ว (ที่ www.sikur.com/preorder) โดยเปิดราคาที่ 799 เหรียญฯ หรือประมาณ 25,200 บาท และมีจำกัดขายเพียง 20,000 เครื่องเท่านั้น ส่วนตัวเครื่องก็มีกำหนดส่งภายในเดือนสิงหาคมปีนี้ครับ

ที่มา: ARiP

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

กูเกิลเปิดคอร์สวิชา Machine Learning ที่ใช้สอนพนักงาน ให้คนทั่วไปเรียนฟรีออนไลน์

ในยุคสมัยที่ AI กำลังมาแรงสุดๆ แต่โลกกับขาดแคลนผู้มีทักษะความสามารถด้าน AI อย่างมาก ส่งผลให้กูเกิลตัดสินใจนำคอร์สวิชา Machine Learning ที่เดิมทีเปิดสอนเฉพาะพนักงานของตัวเอง มาเปิดให้คนทั่วไปเรียนกันฟรีๆ

คอร์สนี้มีชื่อว่า Machine Learning Crash Course (MLCC) เป็นบทเรียนวิชา machine learning เบื้องต้น ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 15 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหา 25 บท วิดีโอเลคเชอร์ สไลด์ และแบบฝึกหัดต่างๆ อีกมาก

เนื้อหาที่สอนมีทั้งทฤษฎีด้าน machine learning โดยทั่วไป และแบบฝึกหัดการเขียนโปรแกรมที่ใช้ TensorFlow ผู้เรียนควรมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ และโปรแกรมมิ่งในภาษา Python การเรียนสามารถใช้งานผ่านหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ

กูเกิลระบุว่ามีพนักงานผ่านคอร์สนี้ไปแล้ว 18,000 คน และนำความรู้ที่ได้ไปใช้พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลเป็นจำนวนมาก


ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Tesla เปิดโครงการ Workplace Charging แจกเครื่องชาร์จรถให้สำนักงานต่างๆ ฟรี

Tesla ยังคงขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของตนเรื่อยๆ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ Workplace Charging เพื่อแจกเครื่องชาร์จรถยนต์ให้บริษัทและสำนักงานต่างๆ ฟรี สำหรับพนักงานที่ใช้รถยนต์ Tesla

Tesla ระบุว่าการชาร์จที่ดีและง่ายที่สุดคือการชาร์จที่บ้าน เสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งคืนก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้รถส่วนใหญ่แล้ว แต่สำหรับลูกค้าบางรายที่อาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ก็สามารถมาชาร์จที่ทำงานได้ ผ่านโครงการ Workplace Charging โดยบริษัทที่สนใจก็ติดต่อเข้ามาให้ Tesla พิจารณา และจะจัดส่งเครื่องชาร์จแบบติดผนังไปให้พร้อมติดตั้งให้ด้วย แลกกับการที่บริษัทนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าไฟเอง

ก่อนหน้านี้ Tesla ก็มีโครงการ Destination Charging อยู่แล้ว โดยมีแนวคิดคล้ายกันคือเจ้าของธุรกิจเช่นร้านอาหาร, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ สามารถติดต่อเข้ามาหา Tesla เพื่อขอสนับสนุนเครื่องชาร์จได้เช่นกัน เพียงแต่ Workplace Charging จะไม่ปรากฏบนแผนที่แสดงสถานีชาร์จเพราะตั้งใจให้บริการเฉพาะพนักงานนั่นเอง


ที่มา: Blognone

ผลสำรวจความนิยมลินุกซ์บนคลาวด์ RHEL นำห่าง Ubuntu อันดับสอง

Red Hat เผยผลสำรวจการใช้งานลินุกซ์บน public cloud โดยสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบด้านไอทีของบริษัทขนาดใหญ่ในอเมริกาเหนือและยุโรป 500 ราย การสำรวจเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2017

ถึงแม้ผลออกมาเป็น Red Hat Enterprise Linux (RHEL) ได้รับความนิยมสูงสุด (ตามคาด) แต่ข้อมูลอื่นๆ ในรายงานก็ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของลินุกซ์บนคลาวด์ได้มากขึ้น

ลินุกซ์ดิสโทรที่นิยมใช้กับเซิร์ฟเวอร์ในองค์กร RHEL นำมาอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 48%, Ubuntu 38%, Oracle Linux 19%, CentOS 17%, SUSE Enterprise (SLES) 19%


ลินุกซ์ดิสโทรที่ใช้งานบน public cloud (นับตามจำนวนที่ใช้งาน) สัดส่วนคล้ายกันคือ RHEL มาอันดับหนึ่ง 29%, Ubuntu 19% และที่เหลือเป็นเลขหลักเดียว


ลินุกซ์ดิสโทรตัวล่าสุดที่เลือกใช้งานบน public cloud RHEL 36%, Ubuntu 27%, Oracle 11%


ที่มา: Blognone

UCHOOSE แอปไลฟ์สไตล์จากกรุงศรี เตรียมเพิ่มฟีเจอร์จ่ายเงินผ่าน QR ด้วยบัตรเครดิต

วันนี้บริษัทกรุงศรี คอมซูมเมอร์จัดงานแถลงข่าวแอป UCHOOSE แอปไลฟ์สไตล์และจัดการบัตรเครดิตมียอดดาวน์โหลดครบล้านดาวน์โหลด พร้อมเปิดเผยแผนการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในปีนี้ โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือการรองรับการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ที่ผูกอยู่กับ UCHOOSE ผ่านทาง QR Code

รูปแบบการใช้งาน QR Code ไทยสามารถสร้าง QR ให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้อยู่แล้วจากมาตรฐาน EMVco ขณะที่ฟีเจอร์นี้จะเพิ่มเข้ามาในแอป UCHOOSE ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ร่วมกับฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะทยอยเพิ่มมาเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี โดยนอกจาก UCHOOSE ตอนนี้ก็มี GSB Pay ของธนาคารออมสินที่รองรับการจ่ายเงินด้วย QR ผ่านบัตรเครดิต


ที่มา: Blognone

Omise ลงนามกับ ETDA ร่วมพัฒนา Proxy ให้โครงการ National Digital ID, เตรียมเป็นผู้ให้บริการยืนยันตัวตน

Omise ผู้ให้บริการ payment gateway ลงนามความตกลงกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA เพื่อเข้ามาช่วยพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัล ในโครงการ National Digital ID

ผมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของข้อตกลงนี้ไปยังคุณนฤดม รุ่งศิริวงศ์ หนึ่งในทีมเทคนิคของโครงการ National Digital ID ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทาง Omise จะเข้ามาช่วย ETDA พัฒนา Federated Proxy ที่เป็นความรับผิดชอบของ ETDA ตามเอกสาร whitepaper ของโครงการ


นอกจากช่วยพัฒนา Federated Proxy แล้ว ทาง Omise ประกาศจะเป็นผู้ให้บริการยืนยันตัวตน (Identity Provider - IdP) รายแรกที่เชื่อมต่อผ่านตัว Federated Proxy

ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Boston Dynamics โชว์หุ่นยนต์สุนัขตัวใหม่ มาพร้อมแขนกลช่วยเปิดประตูเองได้

บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ชื่อดัง Boston Dynamics เผยโฉม SpotMini หุ่นยนต์เดินสีขารุ่นใหม่ มาพร้อมรูปแบบสุนัขตัวเล็ก และแขนกลช่วยเปิดประตูเองได้เองอัตโนมัติ


กลับมาอีกครั้งกับ Boston Dynamics บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ชื่อดังเจ้าเก่า ล่าสุดได้เผยโฉม “SpotMini” หุ่นยนต์เดินสีขารุ่นใหม่ มาพร้อมรูปแบบสุนัขตัวเล็ก และแขนกลช่วยเปิดประตูเองได้เองอัตโนมัติ!!

ก่อนหน้านี้ทาง Boston Dynamics ก็เคยโชว์เจ้า SpotMini มาแล้ว โดยตอนนั้นได้ชูการเคลื่อนไหว ที่มีลักษณะเหมือนสนุัขจริงๆ มีขาหน้ากับขาหลังที่ยืดหยุนเป็นพิเศษ และสามารถทรงตอนวิ่งตัวได้ดี มารอบนี้ได้เพิ่มส่วนที่เป็นแขนกล ที่สามารถเอื้อมมือไปเปิดกลอนประตูเองโดยไม่เสียการทรงตัว ในคลิปก็โชว์การเปิดประตูช่วยให้ SpotMini อีกตัวเดินผ่านไปได้ด้วย

ปัจจุบัน Boston Dynamics อยู่ภายใต้การดูแลของ SoftBank หลังทาง Alphabet หรือบริษัทแม่ของ Google ได้ขายไปเมื่อกลางปีที่แล้ว เรียกได้ว่าผิดคาด เพราะคิดว่าจะได้เห็นระบบ AI ของ Google มีร่างกายหุ่นยนต์จากบริษัทนี้ซะอีกครับ


ที่มา: ARiP

[App.th] Longdo Map เพิ่มข้อมูลป้ายและสายรถเมล์ ขสมก. กรุงเทพ

Longdo Map (ลองดูแมพ) บริการแผนที่ออนไลน์สัญชาติไทย ปล่อยข้อมูลป้ายรถโดยสารประจำทาง ขสมก. รวมถึงสายรถเมล โดยมีข้อมูลกว่า 5,000 ป้ายหยุดรถ และ 457 สายรถประจำทาง ขสมก. ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล

โดยข้อมูลส่วนใหญ่มาจากโครงการ Yak/SmartVC ซึ่งได้ลงพื้นที่ทำข้อมูลเอง และเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ

ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าเว็บ https://map.longdo.com/ และค้นหาสายรถที่ต้องการ หรือ กดไอค่อนรูปป้ายรถเมล์เพื่อดูป้ายทีมีทั้งหมด

ผู้สนใจดาวน์โหลดข้อมูลเอาไปพัฒนาต่อยอด (License เป็น CC-BY) สามารถดาวน์โหลดขัอมูลได้จากหน้า Menu / Download ของ Longdo Map


ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เปิดตัว DJI Mavic Air รุ่นเล็กพับเก็บได้ตัวใหม่ แต่มาพร้อมสเปกระดับโปร

จับรุ่นใหญ่มาย่อขนาดกับ Mavic Air โดรนพกพาตัวใหม่จากทาง DJI มาพร้อมสเปกระดับโปร แต่หนักเพียง 430 กรัม และยังสามารถพับเก็บให้พกพาได้ง่ายขึ้นด้วย


จากที่เคยประสบความสำเร็จกับ Mavic Pro เป็นโดรนพับเก็บได้แต่สเปก Hi-End กับ Spark โดรนรุ่นเล็กเน้นพกพา เพื่อเป็นการขอบคุณทาง DJI จึงเปิดตัว Mavic Air โดรนขนาดเล็กพับเก็บได้ แต่สเปกแรงไม่แพ้รุ่นโปรเลย เหมือนเอา Mavic Pro มาร่วมร่างกับ Spark ยังไงยังงั้น
DJI Mavic Air มาพร้อมขนาดเพียง 168×83×49 มิลลิเมตร หนักแค่ 430 กรัมเท่านั้น มีความเร็วในการบินที่ 42.5 ไมล์ หรือประมาณ 68 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะเวลาบินอยู่ที่ 21 นาที ระยะการควบคุม 4 กิโลเมตร ส่วนกล้องมาพร้อมกันสั่น 3 แกน ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.3 นิ้ว รองรับการถ่ายวิดีโอ 4@30fps กับ Full HD@120fps มีหน่วยความจำภายใน 8 GB รองรับ MicroSD เพิ่มเติมได้
ท้ายนี้ตัวโดรนมาพร้อม 3 ให้เลือกระหว่าง Onyx Black, Arctic White และ Flame Red สำหรับราคาก็จะแบ่งเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกมีราคาที่ 799 เหรียญฯ หรือประมาณ 30,000 บาท ส่วนชุดสอง ที่เพิ่มแบตฯ 3 ก้อน ชุดใบพัด และกระเป๋า ก็อยู่ที่ 999 เหรียญฯ (เป็นราคาโปรโมชั่นจากเดิมอยู่ที่ 1,112 เหรียญฯ) หรือประมาณ 35,000 บาท เปิดให้จองแล้วที่ store.dji.com เริ่มจัดส่ง 28 มกราคมนี้ครับ


ที่มา: ARiP

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

LibreOffice ออกเวอร์ชัน 6.0 รุ่นใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปี

มูลนิธิ The Document Foundation ออกซอฟต์แวร์ LibreOffice 6.0 ถือเป็นการออกเวอร์ชันใหญ่ครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง (เวอร์ชัน 5.0 ออกสิงหาคม 2015) ของใหม่ที่สำคัญมีดังนี้
  • UI ธีมไอคอนแบบใหม่ชื่อ elementary (เดิมทีเป็นของ Xubuntu), ปรับหน้า Special Characters ใหม่
  • Writer เพิ่มเมนู Form สำหรับแทรกฟอร์ม, หมุนรูปภาพได้อิสระทุกองศา (ของเดิมได้เฉพาะชุด 90 องศา), Mail Merge โดยใช้ข้อมูลจากตารางภายใน Writer เอง ไม่ต้องพึ่ง Calc, เพิ่มธีมตารางแบบใหม่ๆ อีกจำนวนมาก
  • Calc เพิ่มคำสั่ง protected cell และแสดงไอคอนรูปกุญแจสำหรับแท็บที่ถูก protected
  • Impress ปรับสัดส่วนเอกสารนำเสนอ ใช้ 16:9 เป็นค่าดีฟอลต์, เพิ่มธีมเอกสารอีกหลายตัว
  • อื่นๆ ผนวกฟอนต์ตระกูล Noto ของกูเกิลที่รองรับอักขระหลากหลายภาษา, สามารถเข้ารหัสและเซ็นเอกสารด้วย OpenPGP ได้แล้ว

ที่มา: Blognone

Integral Memory เปิดตัว microSD ขนาด 512GB แบบ UHS-I ขาย ก.พ. ปีนี้

Integral Memory ผู้ผลิตอุปกรณ์เก็บข้อมูลจากอังกฤษ เปิดตัว microSD ขนาด 512GB แบบ UHS-I สำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตครั้งแรกของโลก

ก่อนหน้านี้เคยมี microSD ขนาดความจุ 512GB เปิดตัวมาแล้วอย่าง Xtra Elite จาก Microdia โดยตอนนั้นมาพร้อม Bus Speed แบบ UHS-2 ซึ่งเหมาะสำหรับกล้องถ่ายรูปมากกว่า แต่ล่าสุดทาง Integral Memory ผู้ผลิตอุปกรณ์เก็บข้อมูลจากอังกฤษ ได้เปิดตัว microSD ขนาด 512GB แบบ UHS-I สำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตออกมาแล้ว

สำหรับตัว microSD ขนาด 512GB จาก Integral Memory จะมาพร้อมมาตรฐาน U1 (ดูรายละเอียดการอ่านค่านี้ได้ที่นี้) หรือเท่ากับ Class 10 ที่มีความเร็วอ่านเขียน 10MB/s ขึ้นไป แต่คาดว่าตัวนี้อาจมีความเร็วอ่านเขียนถึง 80MB/s กันเลย

ส่วนกำหนดวางขาย จะเริ่มภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ราคายังไม่เปิดเผย แต่ถ้าเทียบกับ SanDisk MicroSD ขนาด 400GB ที่มีราคาประมาณ 8 พันบาท ตัวนี้ก็อาจอยู่ราวๆ หมื่นบาทก็เป็นได้ครับ

ที่มา: ARiP

เปิดตัว Labo ชุดอุปกรณ์เสริม Nintendo Swicth สร้างเครื่องเล่นเกมด้วยตัวเอง

Nintendo เปิดตัว Nintendo Labo ชุดอุปกรณ์เสริมแบบ DIY จากกระดาษ (ลัง) ใช้สร้างเครื่องเล่นเกมสำหรับ Nintendo Swicth ได้ตามใจชอบ


เซอร์ไพรส์จากปู่นินหรือ Nintendo หลังเปิดตัว Nintendo Labo ชุดอุปกรณ์เสริมแบบ DIY จากกระดาษ (ลัง) หลากหลายรูปแบบ ให้ผู้เล่นนำไปประกอบสร้างกับเครื่องเกม Nintendo Swicth ได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าเป็นการเอาประโยชน์ของ Joy-Con มาใช้เต็มที่กันเลย


สำหรับ Nintendo Labo หรือเจ้า Labo นั้น ก็จะเหมือนเป็นอุปกรณ์จำลองการเล่นเกมบน Nintendo Swicth ในรูปแบบต่างๆ โดยการเอาเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของ Joy-Con มาประยุกต์ใช้หลายแบบ เช่น ตกปลา เล่นเปียโน ขับมอเตอร์ไซต์ และอื่นๆ โดยล่าสุดมีเปิดขายออกมาก่อน 2 ชุดหลัก (Toy-Con) คือ

Variety Kit


เป็นชุดอุปกรณ์ DIY เริ่มต้น ซึ่งประกอบไปด้วย ชุดแปลง Nintendo Swicth เป็นหุ่นยนต์ (อาศัยการสั่นของ Joy-Con ช่วยขับเคลื่อน), ชุดเบ็ตตกปลา, ชุดประกอบบ้าน, ชุดมอเตอร์โซต์ และชุดเปียโน

Robot Kit


ส่วนชุดนี้ถือเป็น Highlight ของการเปิดตัวเลยคือ ชุดจำลองตัวเองเป็นหุ่นยนต์ โดยจะมีกลไกพิเศษที่กล่องสะพายหลัง แล้วใช้ Joy-Con เพียง 2 ตัว แต่เหมือนใช้หลายๆ ตัว


ท้ายนี้ตัว Nintendo Labo จะเปิดขายจริงภายในวันที่ 20 เมษายน 2018 ส่วนตัวชุดอุปกรณ์หลัก 2 แบบ ก็เปิดราคาขายแล้ว โดยตัว Variety Kit จะอยู่ที่ 69.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,300 บาท ส่วน Robot Kit อยู่ที่ 79.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,500 บาท นอกจากนี้ทาง Nintendo บอกด้วยว่า จะมีการพัฒนาตัว Labo ใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติมในอนาคตด้วยครับ

ที่มา: ARiP

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

Amazon Go ยังไม่สมบูรณ์ บางครั้งคิดเงินไม่ครบ ไม่มีระบบคืนของแต่คืนเงินผ่านแอพได้เลย

Amazon Go เปิดให้บริการคนทั่วไปแล้ว ล่าสุดมีนักข่าวเว็บไซต์ Ars Technica คืนสินค้าผ่านแอพ พบว่าระบบคืนเงินค่าโยเกิร์ตมาให้เลย ทั้งที่ยังไม่ได้คืนสินค้ากลับเข้าชั้นวาง เนื่องจากร้านค้าไม่มีเคาเตอร์บริการลูกค้า เวลาลูกค้าอยากคืนของจึงไม่มีจุดรับคืน

อีกแหล่งข่าวคือ CNBC นักข่าวหยิบของใส่กระเป๋า เช่น คุกกี้ ขนม เครื่องดื่ม มีโยเกิร์ตยี่ห้อ Siggi ด้วย แต่ปรากฏว่ารายการสินค้าที่แสดงในแอพ โยเกิร์ตยี่ห้อ Siggi หายไป เท่ากับว่านักข่าวคนนี้ไม่ได้จ่ายค่าโยเกิร์ต เมื่อนักข่าวสอบถามไปยัง Gianna Puerini รองประธานดูแล Amazon Go ก็ได้ข้อมูลมาว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ยาก พร้อมยังบอกนักข่าวด้วยว่าไม่ต้องจ่ายเงินค่าโยเกิร์ตคืน


ที่มา: Blognone

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

Docker Enterprise Edition รองรับ Kubernetes แล้ว

จากข่าว สงคราม Container ได้ข้อยุติ Docker ยอมซัพพอร์ต Kubernetes แล้ว ล่าสุด Docker ขยับขยายการซัพพอร์ต Kubernetes มายังรุ่น Enterprise Edition (Docker EE) แล้ว

Docker Enterprise Edition เป็น Docker เวอร์ชันดัดแปลงต่อจาก Community Edition โดยเพิ่มฟีเจอร์สำหรับตลาดองค์กรเข้ามา และเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท Docker Inc.

ตอนนี้ Docker EE เวอร์ชันที่รองรับ Kubernetes ยังมีสถานะเป็นรุ่นเบต้า แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีที่เราจะเห็นการใช้ Kubernetes แพร่หลายมากขึ้นในตลาดองค์กร ผู้สนใจสามารถสมัครทดลองใช้รุ่นเบต้าได้แล้ว


ที่มา: Blognone

General Motors เปิดตัว Cruise AV รถยนต์ไร้คนขับ ไร้พวงมาลัย

บริษัทรถยนต์จากสหรัฐฯ เผยคลิปเปิดตัว Cruise AV รถยนต์ไร้คนขับแนวใหม่ ไม่ต้องมีหน้าปัด พวงมาลัย เกียร์ คันเร่ง และเบรก มีแค่หน้าจอสัมผัสก็พอ


General Motors หรือ GB บริษัทรถยนต์จากสหรัฐฯ เผยแนวคิด Cruise AV รถยนต์ไร้คนขับแนวใหม่ ที่ไม่ต้องมีหน้าปัด พวงมาลัย เกียร์ คันเร่ง และเบรก !! จะมีก็เพียงหน้าจอสัมผัส 3 จอ ตรงกลางคอนโซลรถ 1 และหลังเบาะรองหัว 2 จออย่างละฝั่งเท่านั้น


สำหรับตัว Cruise AV ก็พัฒนาต่อจาก Chevrolet Bolt EV นี้เอง โดยทาง GB เผยว่า ตัวรถสามารถดำเนินการผลิตได้เลย แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการขออนุญาตกับทาง NHTSA (องค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐฯ) ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในปีหน้า จะได้วิ่งทดสอบในช่วงนั้นด้วย ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถยังไม่เผยมากนัก ต้องรอดูกันต่อไปครับ


ที่มา: ARiP

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

หมดปัญหาอาหารเหลือทิ้ง DoorDash ช่วยจัดส่งอาหารเหลือจากร้านไปให้คนไร้บ้าน

ในธุรกิจส่งอาหารที่สามารถส่งอาหารไปยังลูกค้าทุกรายได้ การนำอาหารเหลือไปยังผู้ที่มีความต้องการอาหารก็คงไม่ยากเย็นเกินไป

DoorDash ผู้ให้บริการส่งอาหารจากร้านอาหารไปยังลูกค้า เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ร้านอาหารที่มีอาหารเหลือต้องทิ้ง (ตามกฎหมายไม่สามารถนำมาขายในวันถัดไปได้) สามารถนำอาหารเหลือไปยังธนาคารอาหารหรือ Food Bank เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการอาหาร เช่น คนไร้บ้าน ต่อไป

ฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Project DASH ที่บริษัทร่วมกับมูลนิธิ Feeding America ที่ดูแลเรื่องคนไร้บ้าน โดยใช้แอพพลิเคชั่น MealConnect ของมูลนิธิที่เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกับจุดรับอาหาร กระบวนการคือร้านอาหารถ่ายรูปอาหารที่ต้องการส่งเข้ามาในแอพ ระบบจะหาจุดรับอาหารที่ใกล้ที่สุด จากนั้น DoorDash ก็จะรับหน้าที่ส่งอาหารไปยังจุดรับ

Project DASH ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เริ่มใช้งานในนิวยอร์ค ลอสแองเจลิส และซานฟรานซิสโก ถือเป็นทางเลือกที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพราะหากร้านอาหารไม่มีรถหรือระบบขนส่งของร้านเอง ก็เป็นการเสียเวลาในการนำอาหารเหลือไปยังผู้ที่ต้องการ


ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2561

ทดลองกดเงินจากตู้เอทีเอ็มกรุงศรีแบบไม่ใช้บัตรด้วยบริการ Krungsri Cardless ผ่านแอพ KMA

ธนาคารกรุงศรีเพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์กดเงินไม่ใช้บัตรตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยใช้ KMA แอพทำธุรกรรมทางมือถือของกรุงศรี ทำการรับรหัสเพื่อกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มกรุงศรีที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม ซึ่งผมได้มีโอกาสทดลองใช้งานฟีเจอร์นี้เลยจะนำมาเล่าสู่กันฟังครับ


การกดเงินไม่ใช่บัตรผ่านตู้เอทีเอ็มของกรุงศรี กำหนดให้ผู้ใช้ถอนเงินได้ไม่เกินครั้งละ 30,000 บาท และยอดรวมต่อวันไม่เกิน 100,000 บาท (ต่อชื่อผู้ใช้ในแอพ KMA ไม่ใช่ต่อบัญชี) ซึ่งตอนนี้กรุงศรีจะยังไม่คิดค่าธรรมเนียมจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่จะมีบัญชีออมทรัพย์บางประเภทที่คิดค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินตามเงื่อนไขของบัญชีอยู่แล้ว การถอนเงินผ่าน KMA ก็จะเสียค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขปกติบัญชีออมทรัพย์เหล่านั้น ไม่ได้เก็บเพิ่ม ส่วนการกดเงินข้ามเขตผมเองยังไม่ได้ลองจึงไม่ทราบว่าจะเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่

รายละเอียดเพิ่มเติมของการกดเงินไม่ใช้บัตรผ่านแอพ KMA ดูได้จากเว็บไซต์กรุงศรี 

กรุงศรีเคยมีบริการบัตรไม่ต้องเพื่อรับโอนมาแล้ว สิ่งที่บริการใหม่ของกรุงศรีนี้แตกต่างจากบริการเดิมคือ บริการเดิมเป็นการ “โอนเงิน” ให้ใครก็ได้โดยฝ่ายผู้รับจะเอารหัสที่ได้จาก SMS ไปถอนเงินจากตู้กรุงศรี ซึ่งเราสามารถพลิกแพลงเป็นการถอนเงินจากบัญชีตัวเองโดยการโอนให้ตัวเองก็ได้ แต่บริการ “กดเงินไม่ใช้บัตร” ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้คือการถอนเงินจากบัญชีโดยตรง

 

วิธีใช้งาน 

 

ขั้นตอนแรกของการใช้งาน เราจะต้องไปที่แอพ KMA และล็อกอินเข้าสู่หน้าหลักก่อน จากนั้นให้หาเมนู Krungsri Cardless และเลือกบัญชีที่ต้องการถอนเงิน


หน้าถัดไปคือการกรอกจำนวนเงิน ซึ่งสามารถเลือกจำนวนเงินที่เตรียมไว้ หรือว่าจะกรอกตัวเลขเองก็ได้ จากนั้นกด Next และหน้าถัดไปสามารถเขียนบันทึกไว้ได้ว่ากดเงินไปใช้ทำอะไร แต่ถ้าไม่ต้องการเขียนอะไรก็กด Next ข้ามไปเลยก็ได้


เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนจะยืนยันการกดเงิน แอพ KMA จะแสดงหน้าสรุปรายการให้ตรวจสอบอีกครั้ง หากถูกต้องให้กด Confirm จากนั้นแอพ KMA จะแสดงรหัส 6 หลักขึ้นมา ซึ่งรหัสนี้จะใช้กรอกเพื่อกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มกรุงศรี รหัสนี้จะหมดอายุภายใน 5 นาที เป็นอันเสร็จขั้นตอนจากแอพ


จากนั้น เราจะมาที่ตู้เอทีเอ็มของกรุงศรี จากนั้นกดปุ่ม “บริการไม่ใช้บัตร” ที่ปรากฏบนหน้าเครื่อง เลือกภาษา จากนั้นเลือกเมนู “กดเงินไม่ใช้บัตร Krungsri Cardless”


การกดเงินไม่ใช้บัตรของกรุงศรีนั้น ผู้ใช้จะต้องกรอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองที่ใช้กับแอพ KMA และจำนวนเงินที่ต้องการถอนเหมือนกับที่กรอกในแอพ KMA ก่อนหน้านี้ จากนั้นระบบจะเรียกรหัสถอนเงิน 6 หลัก ให้กดรหัสที่ปรากฏในขั้นตอนสุดท้ายของแอพ KMA เข้าไป ซึ่งหากกดผิด 3 ครั้ง รหัสถอนเงินจะถูกยกเลิกทันทีแม้ว่าระยะเวลาจะไม่ถึง 5 นาทีก็ตาม ต้องทำรายการถอนเงินจากแอพ KMA ใหม่ตั้งแต่ต้น


เมื่อกดรหัสเสร็จแล้ว ตู้เอทีเอ็มก็จะจ่ายเงินออกมาพร้อมกับพิมพ์ใบบันทึกรายการ (กรณีกดเงินไม่ใช้บัตร ใบบันทึกรายการจะออกมาอัตโนมัติ) เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการกดเงินไม่ใช้บัตร


สรุป

 

ฟีเจอร์ใหม่กดเงินไม่ใช้บัตรผ่านแอพ KMA ของกรุงศรีถือว่าตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตดีพอสมควร วิธีใช้งานก็ไม่ได้ยากมาก เมนูก็หาไม่ยากเพราะอยู่ที่หน้าหลัก แต่หากใช้ครั้งแรกก็จะรู้สึกงงกับขั้นตอนบ้าง ซึ่งถ้าลองใช้งานไปสัก 2-3 ครั้งก็จะเริ่มชินและคล่องเอง

สำหรับผู้ที่ได้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้มากก็คงจะเป็นผู้ที่มีบัญชีธนาคารแต่ไม่ได้ทำบัตรเอทีเอ็มไว้ เพราะว่าหากจำเป็นต้องใช้เงินในบัญชีจะได้ไม่ต้องไปเบิกถอนเงินที่สาขาของธนาคาร หรือถ้าใครมีบัตรเอทีเอ็มไว้แค่กดเงินแต่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์อื่นของบัตร จะใช้ฟีเจอร์กดเงินไม่ใช้บัตรแทนบัตรเอทีเอ็มไปเลยก็ได้เช่นกัน (ถ้าอยู่ในแหล่งที่มีตู้กรุงศรี)

นอกจากกรุงศรีแล้ว ตอนนี้มีธนาคารอื่นที่ให้บริการกดเงินไม่ใช้บัตรอีกสองธนาคารคือไทยพาณิชย์และออมสิน ซึ่งวิธีใช้งานของกรุงศรีจะเหมือนกับไทยพาณิชย์คือใช้รหัส 6 ตัวแบบจำกัดเวลายืนยัน ส่วนของออมสินจะใช้ระบบคิวอาร์โค้ด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ดังนี้
ที่มา: Blognone

วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561

อันดับภาษาโปรแกรมที่ตลาดไอทีต้องการในปี 2018

Coding Dojo เว็บไซต์สอนเขียนโค้ดระยะสั้น รวบรวมสถิติตำแหน่งงานด้านโปรแกรมมิ่งจากเว็บไซต์ Indeed.com เพื่อดูแนวโน้มของภาษาโปรแกรมที่ตลาดแรงงานจะต้องการสูงในปี 2018

ผลพบว่าตำแหน่งงานสาย Java ยังนำมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนงานที่ลดลงจากปี 2017 (จาก 6.8 หมื่นเหลือ 6.2 หมื่น) ในขณะที่อันดับสอง Python กลับได้รับความนิยมสูงขึ้น


7 อันดับภาษาที่การจ้างงานสูงในปี 2018
  1. Java
  2. Python
  3. JavaScript
  4. C++
  5. C#
  6. PHP
  7. Perl

ส่วนภาษาที่มาแรงและเติบโตสูงในปี 2017 ได้แก่
  • Swift (อันดับ 14)
  • R (อันดับ 11)
  • Rust 
Coding Dojo ยังแนะนำเทคโนโลยีอื่นที่นักพัฒนาควรรู้ เพราะมีความต้องการในงานด้านนี้มากเช่นกัน ได้แก่
  • SQL
  • .NET
  • Node.js
  • MEAN (MongoDB, ExpressJS, AngularJS and Node.js)
ที่มา: Blognone

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นเตือน "บิตคอยน์ตอนนี้เป็นการเก็งกำไรล้วนๆ"

Haruhiko Kuroda ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น เตือนความเสี่ยงของตลาดบิตคอยน์ระหว่างแถลงข่าวการประชุมนโยบายทางการเงินในวันนี้

Kuroda ระบุว่าสถานะการณ์ราคาของบิตคอยน์ตอนนี้ "ผิดปกติอย่างไม่ต้องสงสัย" (undoubtedly abnormal) และแทนที่มันจะทำหน้าที่ในการชำระเงิน ตอนนี้การใช้บิตคอยน์กลายเป็น "การเก็งกำไรล้วนๆ"

การเตือนของ Kuroda น่าจะมีผลต่อตลาดบิตคอยน์มากกว่าการเตือนจากธนาคารกลางอื่นๆ เพราะตอนนี้การซื้อขายเงินดิจิตอลประมาณ 42% เป็นการซื้อขายโดยบริษัทในญี่ปุ่น

จุดเริ่มต้นของช่วงขาขึ้นของราคาเงินดิจิตอลโดยเฉพาะบิตคอยน์ในปีนี้ ก็มาจากการแก้กฎหมายการกำกับดูแลธนาคารของญี่ปุ่น ที่ส่งผลให้บริษัทซื้อขายสามารถเปิดให้บริการได้โดยมีการกำกับดูแล


ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ธนาคารแห่งประเทศไทย อนุมัติอีก 3 ธนาคารใช้ PromptPay QR: กรุงศรี, TMB และ ธนชาต


ล่าสุดในสัปดาห์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย อนุญาตธนาคารให้บริการ PromptPay QR เป็นการทั่วไปอีก 3 รายคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต รวมกับรายเดิมแล้วเป็น 8 ธนาคาร

ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าพิจารณาอนุญาตจากปัจจัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารความเสี่ยง การคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมสาขาและ call center ของธนาคารเพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ


ที่มา: Blognone

วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พบข้อผิดพลาดบน macOS High Sierra แค่พิมพ์ root ก็เข้าถึงระบบ admin ได้

จากการเปิดเผยของ Lemi Ergin เปิดเผยช่องโหว่บน macOS High Sierra ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ root โดยไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่าน เข้าถึงระบบ admin ได้ แถมไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยใดๆ 


ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นผู้ใช้สามารถพบได้เมื่อเข้าสู่ System Preferences > Choose Users & Groups > คลิก the lock to make changes > พิมพ์ root ลงใน username โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน จากนั้นคลิกปลดล็อค เท่านี้ก็เป็นการให้สิทธิ์ในระดับ admin ได้แล้ว ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้ทำให้เข้าถึงบัญชีของผู้เป็นเจ้าของเครื่อง Mac และยังเป็นการให้สิทธิ์ในการเข้าถึงแม้จะล็อคหน้าจออยู่ก็ตาม

ข้อผิดพลาดในครั้งนี้มีรายงานเกิดขึ้นกับ macOS High Sierra เวอร์ชัน 10.13.1 และ 10.13.2 beta โดยทางเว็บไซต์ macrumors ได้แนะวิธีแก้ไขเบื้องต้นไว้ใน ลิงค์นี้ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนที่ Apple จะปล่อยแพตช์อัพเดทเพื่ออุดช่องโหว่ดังกล่าว ซึ่ง Apple ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

ที่มา: ARiP

มาตรฐานใหม่ HDMI 2.1 รองรับการแสดงผล 10K และ Dynamic HDR

ปัจจุบันช่องต่อ HDMI ที่ถูกใช้อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์จัดอยู่ภายใต้มาตรฐาน 2.0 ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ HDMI 2.1 จะทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยคุณสมบัติของมาตรฐานใหม่แบ่งออกเป็นดังนี้ 


HDMI 2.1 เป็น HDMI แบบ High Speed รองรับแบนด์วิดท์ที่ 48Gbps สนับสนุนคอนเทนต์ประเภทวีดีโอที่มีคุณสมบัติของการแสดงผลความละเอียดสูงแบบไม่มีการบีบอัด ได้แก่ วีดีโอความละเอียด 8K HDR, รองรับสัญญาณภาพที่มีความละเอียดสูงและ Refresh Rate ที่เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 8K 60Hz และ 4K 120Hz ช่วยให้การรับชมวีดีโอราบรื่น นอกจากนี้ยังรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 10K ที่ 50Hz, 60Hz, 100Hz และ 120Hz

Dynamic HDR เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการแสดงผลที่ HDMI 2.1 รองรับ ช่วยให้วีดีโอสามารถแสดงความสว่าง, ความคมชัด และรายละเอียดสีของภาพได้ดียิ่งขึ้น

ด้านระบบเสียงมีการรองรับฟีเจอร์ eARC สนับสนุนรูปแบบของเสียงที่ทันสมัย ให้คุณภาพเสียงในระดับสูงสุด นอกจากนี้ยังสนับสนุน Variable Refresh Rate (VRR) ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การแสดงภาพของเกมเป็นอย่างราบรื่นต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ และให้ความละเอียดได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ข้อดีที่สำคัญของ HDMI 2.1 จะสามารถใช้ร่วมกับ HDMI 2.0 ได้ด้วย

ที่มา: ARiP