วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Facebook อธิบายสถาปัตยกรรมเบื้องหลัง Open Graph รันด้วย Apache Giraph

Facebook เป็นเครือข่ายสังคมที่เชื่อมโยง "ความสัมพันธ์" ของผู้คนและวัตถุต่างๆ ซึ่งบริษัทได้ออกแบบแพลตฟอร์ม Open Graph มารองรับฟีเจอร์นี้ (ข่าวเปิดตัวเมื่อปี 2010) ระยะหลัง Facebook จึงมองข้อมูลต่างๆ ในระบบของตัวเองเป็น "กราฟ" (ในความหมายทางคณิตศาสตร์ ไม่ใช้กราฟเส้นแบบราคาหุ้นนะครับ) ไปซะเยอะ

ล่าสุด Facebook ออกมาอธิบายสถาปัตยกรรมเบื้องหลัง Open Graph ที่สามารถประมวลผลข้อมูลกราฟขนาดมหาศาล (Facebook มองไกลถึงระดับ "ล้านล้าน" ความสัมพันธ์)

เริ่มจากซอฟต์แวร์ประมวลผลกราฟ Facebook ทดสอบการทำงานของซอฟต์แวร์ 3 ตัวคือ Apache Hive, GraphLab, Apache Giraph ด้วยข้อมูลระดับ 25 ล้านความสัมพันธ์ (edge ในภาษาของทฤษฎีกราฟ) และสุดท้ายเลือก Giraph ด้วยเหตุผลว่าทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์อื่นๆ ของ Facebook (เช่น Hadoop/HDFS/Hive/Corona) ได้ดี


อย่างไรก็ตาม Giraph ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของ Facebook ทำให้บริษัทต้องแก้ไขปรับปรุงโค้ดเพิ่ม รวมถึงเขียนซอฟต์แวร์อื่นๆ มาใช้งานร่วมด้วย
  • ปรับ Giraph ให้รับข้อมูลกราฟ (vertex/edge) ได้หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่ Giraph จะเน้นข้อมูล vertex เป็นหลัก
  • ข้อมูลของ Facebook เก็บอยู่ใน Hive แต่ดึงข้อมูลจากตารางออกมาโดยตรงไม่ได้ (Hive ต้องใช้ HQL เท่านั้น) ทำให้ Facebook ต้องสร้างซอฟต์แวร์ HiveIO ขึ้นมาอ่านข้อมูลเพื่อส่งต่อให้ Giraph อีกต่อหนึ่ง
  • พัฒนาให้ Giraph ทำงานแบบ multithreading ได้ เพื่อกระจายงานออกไปรันอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปรับปรุงวิธีการใช้หน่วยความจำของ Giraph ใหม่ จากเดิมที่เก็บทุกอย่างเป็นวัตถุในระบบของ Java ที่กินหน่วยความจำมาก มาเป็น byte array แทน
  • ปรับปรุงด้านเสถียรภาพและประสิทธิภาพเมื่อต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมากๆ
โค้ดทั้งหมด Facebook ส่งเข้าโครงการ Giraph แล้ว และล่าสุด Giraph ก็ออกรุ่น 1.0.0 ที่มีฟีเจอร์พวกนี้ทั้งหมด เพื่อให้องค์กรหรือบริษัทอื่นๆ ที่อยากมีสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันนำไปใช้งานได้ด้วย

บทความต้นฉบับอธิบายเรื่องการใช้งานกราฟกับข้อมูลจริงไว้อย่างละเอียด (ที่เขียนมานี้ย่อมากแล้ว) ใครสนใจเรื่องทฤษฎีกราฟ และ big data ตามไปอ่านกันได้ครับ

ที่มา: Blognone

BlackBerry ส่อแววขายกิจการ

มีขาขึ้นก็ต้องมีขาลง!! สัจธรรมที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ เช่นเดียวกับ BlackBerry จากยุคที่กิจการเฟื่องฟู มาตอนนี้พวกเขากลับต้องเผชิญกับปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จนส่อแววว่าอาจต้องขายกิจการ

จากค่านิยมของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่หันไปใช้ iOS กับ Android กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ รวมถึง BlackBerry ค่อนข้างถูกมองข้าม นอกจากนี้ดีไซน์ของ iPhone และสมาร์ทโฟน Android ต่างสามารถดึงดูดให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ต้องการได้ แถมโอเอสที่พวกเขาเลือกยังสามารถเข้าถึงและเรียนรู้ได้ง่าย แม้ตลอดปีที่ผ่านมา BlackBerry พยายามอย่างยิ่งกับการผลักดันสมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นใหม่อย่าง BlackBerry Z10 และโอเอสรุ่นใหม่อย่าง BES 10 แต่นั่นกลับไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของบริษัทกระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากไม่สามารถต่อสู้ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มี Apple, Samsung หรือ Android ได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นการหาทางออกในเรื่องนี้ BlackBerry จึงตัดสินใจตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อร่วมหารือและกำหนดกลยุทธ์ ตลอดจนพิจารณาทางเลือกใหม่ๆ สำหรับทางออกของปัญหาที่ดีสุด และรวมไปถึงการพิจารณาขายกิจการด้วย


ทางด้านซีอีโอของ BlackBerry ยังได้ออกมากล่าวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมา BlackBerry จะยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะมุ่งเน้นที่ความเหมาะสมตามกลยุทธ์ที่คณะกรรมการเฉพาะกิจกำหนดขึ้น

ในการสำรวจส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ IDC ปรากฎว่า BlackBerry เหลือส่วนแบ่งอยู่ไม่ถึง 3% ในไตรมาสล่าสุดของปี 2013 ทั้งๆ ที่เมื่อ 4 ปีก่อนยังครองส่วนแบ่งได้มากถึง 50%

ที่มา: ARiP

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อีกแล้ว พบช่องโหว่ Java 7 ที่เกิดจากโค้ดของฟีเจอร์ใหม่ใน Java 7


นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากบริษัท Security Explorations ค้นพบช่องโหว่ใหม่ของ Java 7 (มีผลกระทบกับ Java SE 7 Update 25 ซึ่งเป็นตัวล่าสุดด้วย)

ปัญหาอยู่ที่ส่วนของ Reflection API ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน Java 7 แต่กลับเป็นต้นเหตุของรูโหว่ใน Java เป็นจำนวนมาก ช่องโหว่นี้เป็นเรื่องของ data type ที่ต่างกันระหว่าง integer/pointer ซึ่ง Security Explorations บอกว่าเปิดให้ถูกโจมตีแบบง่ายๆ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในยุคนี้

Security Explorations จึงตั้งคำถามกับกระบวนการด้านตรวจสอบความปลอดภัยของออราเคิลว่า มี ประสิทธิภาพมากเพียงใด เพราะปัญหารูโหว่ใน Java ช่วงหลัง มาจากโค้ดใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันหลังๆ นั่นเอง

รายละเอียดของช่องโหว่ถูกส่งให้กับออราเคิลแล้ว ที่เหลือก็รอแพตช์กันต่อไปครับ

ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

PhoneGap 3.0 ออกแล้ว

Adobe ออก PhoneGap 3.0 เฟรมเวิร์คสำหรับพัฒนาแอพมือถือด้วย HTML5 เรียบร้อยแล้ว

การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ PhoneGap รุ่นนี้ ปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมภายในเสียใหม่ ให้เรียกใช้เฉพาะปลั๊กอินหรือ API ภายนอกเท่าที่จำเป็นต้องใช้ แพกเกจของแอพจึงมีขนาดเล็กลงและเร็วขึ้น (ส่วนแกนหลักของ PhoneGap 3.0 ยังเป็นโครงการโอเพนซอร์ส Apache Cordova เหมือนเดิม)


PhoneGap 3.0 รองรับแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพิ่มเติมได้แก่ iOS 7, Windows Phone 8, BlackBerry 10 และประกาศว่าจะรองรับ Firefox OS กับ Ubuntu Phone ในอนาคต

นอกจากนี้ยังปรับปรุงเครื่องมือพัฒนาที่รันแบบ CLI บนแต่ละแพลตฟอร์มให้ไปในทิศทางเดียวกัน และเพิ่ม API ใหม่เข้ามาอีกสองตัวด้วย

ที่มา: Blognone

ไมโครซอฟท์หุ้นร่วง 12.2% ภายในวันเดียว นับว่าแรงที่สุดในรอบ 13 ปี

หลังจากการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ไม่น่าประทับใจมากนัก รวมไปถึงการต้องลงบัญชีหนี้สูญกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรณีที่ไม่สามารถขายแท็บเล็ต Surface RT ได้ หุ้นไมโครซอฟท์ได้ตกลงกว่า 12.2% จากราคาสุดท้ายเมื่อวานที่ 35.44 ดอลลาร์ต่อหุ้น มาอยู่ที่ 31.10 ในวันนี้

หากนับเป็นมูลค่าในตลาด ไมโครซอฟท์มีมูลค่าลดลงภายในวันเดียว 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 294 พันล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 258 พันล้านดอลลาร์

ตอนแรก หลายๆ คนคาดว่า Surface RT น่าจะเป็นสินค้าที่น่าจะสร้างรายได้มากมายให้กับไมโครซอฟท์ บางรายเคยเชื่อว่า มันจะเป็นสินค้าที่จะสร้างแผลเป็นให้กับคู่แข่งที่ครองตลาดอยู่อย่างอุปกรณ์ Android และ iOS แต่ตอนนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับ Microsot Kin 

ที่มา: Blognone

ซัมซุงออก SSD สุดแรง ความเร็วอ่าน 3GB ต่อวินาที ความจุสูงสุด 1.6TB

ซัมซุงเปิดตัว SSD รุ่น NVM Express (NVMe) XS1715 สำหรับตลาดองค์กร (เอามาใช้ในเซิร์ฟเวอร์นั่นล่ะครับ) โดยมีอัตราการอ่านข้อมูลสูงสุด (sequential read) ที่ 3GB/s ซึ่งถือว่าเร็วกว่า SSD ตัวท็อปของซัมซุงรุ่นที่แล้วถึง 6 เท่าตัว ส่วนอัตราอ่านข้อมูลแบบ random read สูงสุดอยู่ที่ 740,000 IOPS อัตราการเขียนไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นเท่าไร


ความจุมีให้เลือก 3 ขนาดคือ 400GB, 800GB, 1.6TB ราคายังไม่เปิดเผย

นอกจากนี้ซัมซุงยังออก SSD อีกรุ่นคือ 840 EVO ที่เน้นขนาดเล็กมากๆ มีให้เลือกความจุตั้งแต่ 120GB จนถึง 1TB มีอัตราการเขียนสูงสุดที่ 410 MB/s

ที่มา: Blognone

VLC กลับสู่ App Store อีกครั้ง

เมื่อต้นปี 2011 นั้น VLC ถูกถอดออกจาก App Store ฐานละเมิด GPL แต่ตอนนี้ VLC ได้กลับมาสู่ App Store อีกครั้ง (ตั้งแต่ 25 พฤษภาคม 2013) ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็มาเป็นแอพที่รันได้ทั้ง iPhone และ iPad โดยมีฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น อัพโหลดเนื้อหาผ่าน Wi-Fi, ที่ทำให้สะดวกขึ้นในการรับเนื้อหาจากคอมพิวเตอร์มาสู่อุปกรณ์ iOS

ถึงแม้ในปัจจุบันการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องปกติจึงดูเหมือน VLC เข็นฟีเจอร์นี้ออกมาช้าไป แต่ก็ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้หลายรายที่มีปัญหาด้านอินเทอร์เน็ต (เช่น เน็ตอืด, เน็ตไม่เสถียร หรือถูกจำกัดการใช้ข้อมูลตาม FUP)

VLC ที่ถูกถอดจาก App Store เมื่อคราวก่อนเป็นการพัฒนาของบริษัท Applidium (นำโค้ดเดิมมาพัฒนาต่อ) แต่คราวนี้คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะ VideoLAN ผู้พัฒนา VLC ทำขึ้นมาเอง

หากใครสนใจสามารถดาวน์โหลด VLC ได้แล้วที่ App Store 

ที่มา: Blognone

เจ๋งอ่ะ ! โปรเจคเตอร์จิ๋ว ใช้พิมพ์ก็ได้

โปรเจคเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ทุกวันนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการแสดงภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือไว้ใช้ในการนำเสนอผลงาน Presentation แต่สำหรับ Celluon Epic โปรเจคเตอร์ขนาดจิ๋วสามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์พีซี, Mac, โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตได้ด้วย


ความเจ๋งของ Celluon Epic โปรเจคเตอร์ขนาดจิ๋วนี้คือ การฉายภาพคีย์บอร์ดลงบนพื้นผิวได้ และเคยเปิดตัวรุ่นต้นแบบไปแล้วที่งาน CES 2013 แล้วมันเจ๋งอย่างไร? แสงอินฟาเรดสีแดงที่ส่องลงมาเป็นภาพคีย์บอร์ดนี้ สามารถกดหรือพิมพ์ได้เหมือนคีย์บอร์ดจริงๆ แถมยังสามารถเปลี่ยนค่าให้ทำหน้าที่เป็นเมาส์ได้อีกด้วย Celluon Epic โปรเจคเตอร์ขนาดจิ๋วเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้กับโทรศัพท์มือถือ ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือจะใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ Windows PC ( XP/Vista/7 ) และ Mac OS X ก็ทำได้เช่นเดียวกัน ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 60 กรัม ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบแก็ดเจ็ตที่ทันสมัย สามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้สบายๆ และอาจทำให้ผู้คนรอบข้างที่พบเห็นต้องอิจฉาไปตามๆ กันด้วยก็เป็นได้

Celluon Epic โปรเจคเตอร์ขนาดจิ๋วปัจจุบันราคาอยู่ที่ 170 เหรียญสหรัฐ ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์ Amazon จร้า ^^

ที่มา: ARiP

SCB ชี้แจงเรื่องการขอสิทธิ์ Super User ของแอพ UP2ME บน Android


ทางธนาคารไทยพาณิชย์ได้ส่งคำชี้แจงมาแล้ว ผมเอามาเผยแพร่ต่อโดยยกคำชี้แจงมาทั้งหมดเลยนะครับ
ขอฝากส่งคำชี้แจงสำหรับ thread blognone.com/node/46308 จากทาง SCB นะครับ

ทางเราขอสิทธิ์ super user เพราะทางทีม development คิดว่าเป็นวิธีที่หลบหลีกยากที่สุดในการเช็คว่าเครื่องไหนถูก root เพื่อเตือนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้ ทั้งนี้หากผู้ใช้ยืนยันใช้ต่อ หลังที่ได้รับเตือน ผู้ใช้ยังสามารถใช้งาน app ได้ตามปกติ เหตุผลที่ต้องการเช็คเพราะว่าทางเราต้องการเตือนผู้ใช้หลายท่านที่ใช้ เครื่อง root แต่อาจไม่ทราบว่าเครื่องที่ใช้อยู่มีความเสี่ยงครับ

อย่างไรก็ตาม ทางเราทราบว่ายังมีอีกหลายวิธีในการเช็คเครื่อง root โดยไม่จำเป็นต้องขอสิทธิ์ super user และได้รับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจาก developer ชาว blognone เรื่องการนำสิทธิ์นี้ไปเช็ค ดังนั้นทางเราจะนำไปปรึกษากับทีม development เพิ่มเติมต่อไปครับ

รวมทั้งทางเราจะระบุเพิ่ม เรื่องการขอสิทธิ์ super user ใน application description ให้ชัดเจนครับ

ธนา โพธิกำจร

Tana Pothikamjorn (Tommy)
Head of Digital Banking
Siam Commercial Bank PCL.
 ที่มา: Blognone

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไทยว่าไง ! เกาหลีใต้ใช้เน็ตที่เร็วกว่า 4G

เกาหลีใต้เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงที่มีคุณภาพเหนือกว่า 4G LTE ถึง 2 เท่า และเร็วกว่า 3G ถึง 10 เท่า


เกาหลีใต้นับเป็นประเทศในแถบเอเชียที่มีอัตราการเติบโตในด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และโครงข่ายอินเตอร์เน็ตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัท SK Telecom ของเกาหลีใต้ ได้เปิดบริการอินเตอร์ไร้สายความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในโลก เรียกว่า "LTE-Advance Network" ที่ให้ความเร็วมากกว่า 4G ปกติถึง 2 เท่า และยังเหนือกว่า 3G 10 เท่า  คุณสมบัติของ LTE-Advance Network ช่วยในการถ่ายโอนข้อมูล 150 เมกะบิตต่อวินาที, สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ขนาด 800 เมกะไบต์ได้ในเวลา 43 วินาที เร็วกว่าเดิมจาก 4G LTE ปกติที่กินเวลาไป 80 วินาที นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงใหม่นี้ สามารถรับชมวีดีโอในระบบ HD 1080p ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเล่นวีดีโอแชทที่ให้ภาพและเสียงได้ดียิ่งขึ้น


นับเป็นการเติบโตทางด้านอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงที่รวดเร็วมาก ซึ่งในปัจจุบัน ประชากรในเกาหลีใต้ร้อยละ 60 หรือผู้ใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 33 ล้านคน เลือกสมัครบริการ LTE และส่งผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung ออกผลิตภัณฑ์ Samsung Galaxy S4 LTE เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการใช้งานบน LTE-Advance Network ด้วย แต่ในขณะนี้ยังใช้ได้เฉพาะในกรุงโซลเท่านั้น ซึ่งบริษัท SK Telecom ก็ตั้งเป้าขยายบริการนี้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในเร็วๆ นี้

ที่มา: ARiP