วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

Apple และ Microsoft นำทีมบริษัทไอที ต้าน ‘ทรัมป์’ หลังยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพ

กลายประเด็นร้อนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ เมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพที่เป็นเด็กและเยาวชน ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมาย หรือ DACA ซึ่งคาดว่าการยกเลิกครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้อพยพกว่า 800,000 คนทั่วประเทศ (หรือเรียกบุคคลกลุ่มนี้ว่า “Dreamers”) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มพนักงานจำนวนมากในบริษัทไอทีด้วย


การประกาศยกเลิกโครงการ DACA ของโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อให้เกิดการต่อต้านจากบริษัทไอทีระดับโลกจำนวนมาก โดยเริ่มจาก Brad Smith ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Microsoft ที่ออกมาแถลงคัดค้านการยกเลิกโครงการ DACA โดย Brad Smith ระบุว่าปัจจุบัน Microsoft มีการว่าจ้าง Dreamers จำนวน 39 คน เพื่อทำงานให้กับบริษัท และยืนยันจะอยู่เคียงข้างกับพนักงานเหล่านี้ พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิให้กับ Dreamers หากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ไม่สามารถหาข้อสรุปที่เป็นธรรมได้

จากนั้น Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft ได้ออกมาสนับสนุน Brad Smith ผ่าน linkedin ว่า ในการมีส่วนร่วมของพนักงานที่มีพรสวรรค์จากทั่วโลกมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทไปจนถึงเศรษฐกิจในวงกว้าง ที่ผ่านมา Microsoft ใส่ใจและสนับสนุนกลุ่ม Dreamers อย่างเต็มที่มาโดยตลอด พร้อมยอมรับในความหลากหลายและเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจของทุกคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนหลอมรวมให้เป็นอเมริกาอย่างที่รู้จักเช่นทุกวันนี้

Tim Cook ซีอีโอ Apple ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านการยกเลิกโครงการ DACA เช่นกัน โดยระบุว่าปัจจุบัน Apple มี Dreamers ที่ทำงานอยู่ประมาณ 250 คน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้สมควรได้รับความเคารพอย่างเท่าเทียมกัน และยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างกับพนักงาน ซึ่ง Apple พร้อมที่จะทำงานร่วมกับสภาคองเกรส เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาด้านกฎหมายสำหรับการคุ้มครองกลุ่ม Dreamers ในสหรัฐฯ อย่างยั่งยืน

นอกจากบุคคลทั้ง 3 แล้ว ยังมี Sundar Pichai ซีอีโอ Google, Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook, Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon รวมไปถึงผู้นำในอุตสหกรรมไอทีอีกจำนวนมาก ที่ออกมาคัดค้านการยกเลิกโครงการ DACA นอกจากนี้เหล่าผู้นำในอุตสหกรรมไอทีกว่า 300 คน ยังได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อแสดงจุดยืนที่มีต่อกลุ่ม Dreamers

สำหรับโครงการ DACA เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป็นโครงการคุ้มครองเด็กและเยาวชนในช่วงอายุระหว่าง 6-16 ปี ที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย สามารถพักอาศัย ศึกษาเล่าเรียน และได้สิทธิในการทำงานในสหรัฐฯ ด้วย

แต่หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนึ่งในนโยบายในการบริหารประเทศ คือ  “อเมริกาต้องมาก่อน” ทั้งแรงงานและครอบครัวอเมริกันจะต้องได้รับสิทธิประโยชน์เป็นลำดับแรก ดังนั้นการยกเลิกโครงการ DACA นับเป็นความพยายามดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่โดนัล ทรัมป์ ประกาศไว้ เพื่อลดทอนกลุ่มเชื้อชาติอื่นที่เข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผลลัพธ์ที่จะตามมากลับส่งผลกระทบต่อประชากรจำนวนมาก พร้อมก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในสังคมในสหรัฐฯ และอาจลุกลามไปถึงระบบเศรษฐกิจในอนาคตด้วย

ข้อเรียกร้องของบริษัทไอที ไปจนถึงกระแสต่อต้านจากผู้คนจำนวนมากในสหรัฐฯ จะมีผลต่อการตัดสินใจของสภาคองเกรสของสหรัฐ และนำมาซึ่งข้อสรุปที่เป็นธรรมได้หรือไม่ รวมไปถึงจะมีผลทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมถอยจากนโยบายนี้ได้หรือไม่ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ

ที่มา: ARiP

Oracle ประกาศ เตรียมเปิดซอร์ส Oracle JDK ทั้งหมด 100% สู่ OpenJDK

นอกจากประเด็นเรื่องระบบการออกรุ่นแบบใหม่ของ Java SE ทาง Mark Reinhold หัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรม Java ของ Oracle ก็ยังประกาศแผนการโอเพนซอร์ส Oracle JDK ทั้งหมดในอนาคตด้วย

ปัจจุบันตัว JDK (Java Development Kit) แยกเป็น 2 เวอร์ชันคือ OpenJDK ที่เป็นโอเพนซอร์ส และ Oracle JDK ที่เพิ่มฟีเจอร์เชิงพาณิชย์บางส่วน (เช่น Java Flight Recorder, Mission Control) เข้ามา โดย Oracle มีรายได้จากค่าซัพพอร์ตองค์กรที่ใช้งาน Oracle JDK ด้วย

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ Oracle จะทยอยเปิดซอร์สของฟีเจอร์ทั้งหมดใน Oracle JDK เข้าสู่โครงการ OpenJDK (เท่ากับว่าต่อไปจะมี JDK เวอร์ชันเดียวในตอนสุดท้าย) กำหนดการจะเริ่มหลังจาก Java 9 ออกในเดือนนี้ แต่ Oracle ก็ระบุว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดได้ครบ


ที่มา: Blognone

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

ปูตินประกาศวิสัยทัศน์ "ใครที่เป็นผู้นำด้าน AI จะเป็นผู้นำโลกในอนาคต"

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไปพูดให้นักเรียนรัสเซียฟังในหัวข้อ "โลกอนาคตเป็นของ AI" โดยเขาย้ำว่า AI คืออนาคต ไม่ใช่แค่ของรัสเซีย แต่เป็นอนาคตของมนุษยชาติ มันสร้างโอกาสมหาศาล แต่ก็อาจเป็นภัยที่พยากรณ์ได้ยากในปัจจุบัน ใครก็ตามที่เป็นผู้นำด้าน AI จะเป็นผู้นำโลกในอนาคต

เขายังบอกว่าเขาไม่อยากเห็นการผูกขาดการพัฒนา AI กับองค์กรเพียงไม่กี่แห่ง และถ้ารัสเซียเป็นผู้นำในเรื่องนี้ รัสเซียจะยินดีแบ่งปันความรู้แก่โลก เช่นเดียวกับที่รัสเซียเคยแบ่งปันความรู้ด้านนิวเคลียร์มาก่อน รัสเซียต้องรีบพัฒนาตัวเองในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เป็นชาติที่ล้าหลังหรือตกขบวนในอนาคต

เขายังพูดถึงวิทยาการด้าน cognitive science ที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์ร่วมกับศาสตร์ด้านอื่นๆ ว่ายังไปได้อีกไกลมากจนแทบไม่มีขอบเขต

การพูดของปูตินถูกถ่ายทอดไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ 160,000 แห่ง คาดว่ามีผู้ชมรวมมากกว่า 1 ล้านคน


ที่มา: Blognone

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560

โอเพนซอร์สก็มา ไลบรารี promptpay-qr สำหรับสร้าง PromptPay QR ด้วยจาวาสคริปต์

คุณไท ปังสกุลยานนท์ เผยแพร่ไลบรารีโอเพนซอร์ส promptpay-qr เป็นไลบรารีสำหรับสร้าง PromptPay QR ด้วยจาวาสคริปต์

ตัวไลบรารีมีเพียงฟังก์ชั่นเดียวและสองอาร์กิวเมนต์ คือ generatePayload(idOrPhoneNo, { amount }) เพื่อสร้างสตริงสำหรับนำไปสร้าง QR อีกที

โครงการเผยแพร่อยู่บน GitHub มีทั้งเวอร์ชั่นเว็บสำหรับ firebase และ command line ติดตั้งผ่าน npm ได้ทันที


ที่มา: Blognone

ใช้งานเลยไม่ต้องรอ Digio เปิดเว็บสร้าง PromptPay QR

วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัว PromptPay QR บริษัท Digio ผู้พัฒนาโซลูชั่นจุดรับจ่ายเงินก็เปิดเว็บสร้าง PromptPay QR ด้วยตัวเอง ทำให้ทุกคนสามารถสร้าง QR เพื่อรับเงินได้เลย

QR สามารถสร้างด้วยข้อมูลน้อยที่สุดคือหมายเลขพร้อมเพย์อย่างเดียว และเพิ่มข้อมูลอื่นๆ ตั้งแต่จำนวนเงิน ชื่อผู้รับ ไปจนถึงระบุประเภทร้านค้าได้ด้วย (ไม่แน่ใจว่าใช้งานตอนไหน?)

ผมทดสอบแล้วกับ PromptPay ที่ผูกกับ TMB ก็ใช้งานได้เช่นกัน ใครลองแล้วได้ผลอย่างไรลองมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ


ข้อมูลเปิดเผย: ทาง Digio เป็นผู้สนับสนุน Blognone ด้วยการลงโฆษณาหางานใน Jobs Plus

ที่มา: Blognone

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผลสำรวจชี้ เด็กผู้หญิงกังวลเรื่องภาพลักษณ์บนโซเชียล คิดเปรียบเทียบคนอื่นตลอด

มีผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้โซเชียลมีเดีย อายุระหว่าง 11-21 ปี สำรวจเฉพาะผู้หญิง 1,000 คน พบว่า 35% เผยความกังวลสูงสุดของพวกเธอคือ ความรู้สึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นบนโลกโซเชียล พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ โดยมีเพียง 12% เท่านั้นที่พ่อแม่ให้ความสนใจ

ความกังวลบนโลกออนไลน์อันดับต้นๆ คือ กังวลเรื่องถูกคุกคามจากคนแปลกหน้าบนโซเชียล (ถือเป็นเรื่องดีที่มีการระวังตัว) ที่น่าสนใจคือ พวกเธอกังวลว่าคนอื่นๆ จะมองพวกเธออย่างไรผ่านการโพสต์โซเชียล

Ruth Marvel รองประธานบริหารของ Girlguiding องค์กรการกุศลในอังกฤษ ระบุว่า พวกเธอเน้นย้ำถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นในการใช้โซเชียล พวกเธอพยายามทำตัวเองให้สมบูรณ์แบบเสมอ

Rhiannon Lambert นักโภชนาการ Harley Street ระบุว่า เด็กวัยรุ่นเปรียบเทียบสุขภาพตัวเองกับคนอื่นบนออนไลน์ด้วย พวกเขามักจะคิดว่าตัวเองไม่แข็งแรงพอ มันกลายเป็นบรรทัดฐานบนสังคมออนไลน์ไปแล้ว พวกเธอต้องการโตขึ้นเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่นในสังคมหรือ influencer และไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ได้ตระหนักเรื่องนี้อย่างเต็มที่หรือไม่


ที่มา: Blognone

Android 8.0 Oreo เพิ่มฟีเจอร์สั่งงานปริ้นเตอร์ ไม่ต้องใช้แอปช่วย

ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 ได้ฤกษ์เปิดตัวพร้อมชื่อ “Oreo” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าสมาร์ทโฟน Android ระดับไฮเอนด์ที่จะทยอยเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้จะเริ่มหันมาใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดจาก Google กันค่อนข้างแน่


นอกจากการเปิดตัว Google ยังปล่อยให้ผู้สนใจได้ติดตั้ง Android 8.0 Oreo ไปทดสอบใช้งานกันเบื้องต้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกค้นพบ คือ การเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับปริ้นเตอร์ โดยผู้อ่านที่เห็นแบบนี้อาจรู้สึกว่าไม่เห็นแปลกและไม่ใช่เรื่องใหม่นัก แต่สิ่งที่ Android 8.0 Oreo ต้องการนำเสนอฟีเจอร์นี้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่สามารถเชื่อมต่อกับปริ้นเตอร์แบบไม่อาศัยแอปจากปริ้นเตอร์นั้นๆ

การนำเสนอฟีเจอร์นี้ทาง Google ได้มีการใช้มาตรฐานการพิมพ์จาก Mopria เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและสั่งพิมพ์ไปยังปริ้นเตอร์ได้โดยตรง ซึ่งในปัจจุบันมีปริ้นเตอร์ที่ได้การรับรองมาตรฐานจาก Mopria มากกว่า 100 ล้านเครื่อง

สำหรับการใช้งานเพียงเข้าไปที่เมนู Settings  > Connected devices > Printing > Default Print Service จากนั้นผู้ใช้สามารถค้นหาปริ้นเตอร์ผ่าน Wi-Fi Direct หรือการป้อน IP address เอง


ที่มา: ARiP

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Omnicharge เปิดตัว Power Bank ชาร์จโน๊ตบุ๊คผ่าน USB-C และเป็น Hub USB 3.0 ในตัวเดียว

ต่อจากรุ่นก่อน Omni 20 USB-C เป็น Power Bank รุ่นรองรับการชาร์จพลังงานผ่านพอร์ต USB Type-C โดยเฉพาะ ใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คก็ได้ และเป็น Hub USB 3.0 ก็ได้อีกด้วย


รุ่น Type-C หลังประสบความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว กับรุ่น Omnicharge Standard และ Omnicharge Pro เป็น Power Bank ที่มาพร้อมหัวชาร์จแบบ AC (ปลั๊กสามขา) ซึ่งจ่ายไฟได้ระดับ AC 120V หรือ 230V ทำให้ชาร์จโน๊ตบุ๊คได้สบายๆ หรือใช้จ่ายไฟทีวีก็ยังได้ และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางผู้ผลิตได้เปิดตัวรุ่นที่ใช้หัวชาร์จเป็น USB Type-C เอาไว้ใช้กับอุปกรณ์สมัยใหม่ ที่มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) นั้นเอง !!


พบกันอีกครั้งกับ Omnicharge ผู้ผลิต Power Bank อเนกประสงค์ ที่ชาร์จอุปกรณ์ได้สารพัดนึก และชาร์จอุปกรณ์ได้หลายตัวพร้อมๆ กันด้วย ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ใช้ชื่อว่า “Omni 20 USB-C” มาพร้อมความจุระดับ 20,100 mAh มีชิป CPU คอยควบคุมระบบ (32 bits ARM Cortex M0) ขนาดตัวเครื่องกระทัดรัด หนักแค่ 506 กรัมเท่านั้น


และมีระบบป้องกันภัยถึง 12 ชั้น หลักๆ ก็มี กันความร้อน, ลัดวงจร, จ่ายไฟเกิน, ป้องกันแรงดัน, กระแสเกิน และอีกเพียบ ส่วนตัวแบตฯ ก็ใช้ Lithium Ion Battery จำนวน 6 ก้อนซ้อนกัน (By Panasonic/LG chem/Samsung) รองรับการชาร์จได้ถึง 500 ครั้ง


พอร์ต USB-C สองช่อง ฝั่งหนึ่งจ่ายไฟออกได้ถึง 60W (รวมอีกฝั่งเป็น​ 100W) รองรับ Fast-Charging เต็มไวในไม่กี่ชั่วโมง


USB-C อีกฝั่งเป็นช่องชาร์จไฟเข้า 45W ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ในการชาร์จไฟเข้าตัว Omni 20


พอร์ต USB-A 3.0 สองช่อง จ่ายไฟได้ 30W หรือ 5V/3A ทั้งสองช่องกันเลย


ส่วนที่พิเศษของ Omni 20 เลยคือ สามารถเป็น Hub ส่งข้อมูลผ่าน USB 3.0 X 2 และ USB-C X 1 ได้ด้วย


ชาร์จไฟไปด้วย ส่งข้อมูลไปด้วย


และสุดท้าย จอ OLED บอกสถานะทั้งหมดของตัวเครื่องแบบ Real-Time

สำหรับราคา Omni 20 USB-C เนื่องจากอยู่ในช่วง BACKERS จึงมีราคาพิเศษ แบ่งเป็น 2 แบบคือ
  • Omni 20 USB-C + Protective Case (เคสกันกระแทก) อยู่ที่ 189 เหรียญฯ หรือประมาณ 6,300 บาท (จากราคาปกติ 288 เหรียญฯ หรือประมาณ 9,600 บาท)
  • Omni 20 USB-C อยู่ที่ 169 เหรียญฯ หรือประมาณ 5,700 บาท (จากราคาปกติ 249 เหรียญฯ หรือประมาณ 8,300 บาท)
เริ่มจัดส่งช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ครับ ใครสนใจ ไปดูรายละเอียดได้ที่ Omnicharge: Most Powerful Dual USB-C Power Bank

ที่มา: ARiP

วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เพื่อการขุดโดยเฉพาะ ASUS เปิดตัวเมนบอร์ด B250 มี PCIe 18 ช่อง รองรับการ์ดจอ 16 ใบ

ASUS B250 Mining Expert เปิดตัวเมนบอร์ด ASUS B250 Mining Expert เมนบอร์ดที่ออกแบบมาเมื่อการขุดเงินดิจิตอลโดยเฉพาะ โดยตัวเมนบอร์ดเป็น PCIe x1 จำนวนถึง 18 ช่อง วางเรียงกัน สามแถว

การติดตั้งการ์ดปกติคงทำไม่ได้ แต่สำหรับเครื่องขุดเงินมักต่อสายแยกออกไปอยู่แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะติดตั้งจนเต็ม

แม้ว่าจะมี PCIe มาถึง 18 ช่องแต่ไดร์เวอร์ของทั้ง AMD และ NVIDIA รองรับการติดตั้งการ์ดจอเพียง 8 ใบต่อเครื่อง แต่สามารถติดตั้งสองยี่ห้อพร้อมกันได้ยี่ห้อละ 8 ใบรวมเป็น 16 ใบ (มีผู้ใช้บางคนระบุว่าสามารถติดตั้งได้เกินนั้น)

ก่อนหน้านี้ ASUS เคยออกสินค้าสำหรับขุดเงินมาแล้วโดยเฉพาะคือการ์ดตระกูล Mining ที่ไม่มีพอร์ตต่อจอภาพ โดยมีให้เลือกทั้ง AMD และ NVIDIA แต่การ์ดไม่มีขายทั่วไปต้องสั่งเป็นล็อตเท่านั้น ตัวเมนบอร์ดนี้ก็อาจจะไม่มีขายปลีกเช่นกัน


ที่มา: Blognone

Google Docs ปรับปรุงเรื่องเวอร์ชันของเอกสาร ตั้งชื่อเวอร์ชันได้แล้ว, แก้เป็นทีมจากมือถือได้

Google Docs, Sheets, Slides ปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการแก้ไขเอกสารร่วมกัน (collaboration) และการควบคุมเวอร์ชันของเอกสาร (version control) ดังนี้
  • เดิมที เอกสารในกลุ่ม Docs จะถูกบันทึกการแก้ไขเป็น revision history ตามเวลา ของใหม่เราสามารถตั้งชื่อเวอร์ชันได้เอง และเปลี่ยนชื่อมาเป็น version history แทน ผู้ใช้ยังสามารถเรียกดูเฉพาะเวอร์ชันที่ถูกตั้งชื่อ เพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ของเอกสารได้
  • กรณีที่เอกสารมีคนแก้กันหลายคน มี suggested edits มากจนงง เราสามารถพรีวิวดูหน้าตาเอกสารที่รับทุกการแก้ไข (accept all) หรือปฏิเสธทุกการแก้ไข (reject all) ก่อนได้ นอกจากนี้ระบบยังเพิ่มปุ่ม accept/reject all ให้ด้วย เพื่อประหยัดเวลาของคนตรวจเอกสาร
  • ผู้ใช้บน Android/iPhone/iPad สามารถ suggest changes ได้แล้ว ช่วยให้คอมเมนต์หรือแก้ไขเอกสารได้จากทุกที่

นอกจากเรื่องการควบคุมเวอร์ชันของเอกสารแล้ว Google Docs และ Sheets ยังปรับปรุงระบบเทมเพลตของเอกสาร ให้ผูกกับ add-on บางตัวได้อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เอกสารสัญญาที่มีผลทางกฎหมาย ที่ผูกกับบริการเซ็นชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของ DocuSign เป็นต้น

ที่มา: Blognone