วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Visa เผย Data Center ล่มเพราะ Switch ทำงานผิดปกติ และ Failover ไม่สำเร็จ

เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี้มีเหตุการณ์ Data Center ของ Visa มีปัญหาไปประมาณ 10 ชั่วโมง จนทำให้ธุรกรรมเกือบ 5 ล้านรายการหรือประมาณ 10% ในยุโรปล้มเหลวไป ซึ่งทาง Visa ก็ออกมาแถลงว่าต้นเหตุของกรณีเกิดจากปัญหาที่อุปกรณ์ Switch ภายใน Data Center นั่นเอง


Visa ระบุว่า Data Center ของ Visa ในยุโรปนั้นมีด้วยกัน 2 แห่ง และทั้ง 2 แห่งนี้จะทำงานร่วมกันแบบ Active-Active โดยหากแห่งหนึ่งหยุดทำงานไป อีกแห่งหนึ่งก็ทำงานทดแทนได้อย่างสมบูรณ์และรองรับธุรกรรมทั้งหมดได้ด้วยตนเอง แต่ในกรณีนี้อุปกรณ์ Switch นั้นเกิดปัญหาในเคสที่เป็นไปได้ยาก หรืออุปกรณ์มีปัญหาแค่บางส่วนเท่านั้น ทำให้ Switch สำรองไม่ทำ Failover ขึ้นมาทำงานแทน และทำให้การรับส่งข้อมูลระหว่าง Data Center 2 แห่งมีปัญหาเป็นบางส่วน

ทาง Visa ต้องทำการปิดอุปกรณ์ Switch ชุดที่มีปัญหาทิ้งเพื่อแก้ไขปัญหาระบบเครือข่ายก่อน จากนั้นจึงพบว่ายังมีปัญหาข้อมูลธุรกรรมคงค้างและข้อมูลไม่เท่ากันใน Data Center ทั้ง 2 ระบบ จึงต้องทำการตัดระบบเครือข่ายของ Data Center หลักทิ้ง, ปิดระบบทั้งหมดใน Data Center หลักเพื่อไม่ให้การ Synchronize ข้อมูลสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้กับ Data Center รอง จากนั้นจึงไปจัดการกับ Message Backlog ทั้งหมดที่ Data Center รองให้เรียบร้อย

กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนที่ธุรกรรมต่างๆ ของ Visa จะกลับมาทำงานได้เป็นปกติ โดยปัจจุบันทาง Visa ได้ให้ทาง EY เข้าไปทำการตรวจสอบเหตุการณ์นี้เพิ่มเติม และทาง Visa ก็กำลังเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่

ก็ถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่ดูแลระบบ Data Center ว่าการออกแบบระบบให้ทำงานทดแทนกันได้นั้นก็อาจยังวางใจไม่ได้ และทักษะด้านการตรวจสอบแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี

ที่มา: TechTalk

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ไมโครซอฟท์ออก Office 2019 for Mac รุ่นพรีวิวให้ทดสอบ

ไมโครซอฟท์ออก Office 2019 for Mac Preview ตามหลัง Office 2019 สำหรับพีซีที่ออกพรีวิวไปก่อนหน้านี้ ในชุดประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote

ฟีเจอร์หลายอย่างของ Office 2019 อยู่ใน Office 365 เรียบร้อยแล้ว แต่ไมโครซอฟท์ยังออก Office 2019 สำหรับลูกค้าที่ยังใช้วิธีจ่ายค่าไลเซนส์แบบซื้อขาด ไม่ได้จ่ายรายเดือนแบบเดียวกับ Office 365 ให้ต่อไป ตัวอย่างฟีเจอร์ใน Office 2019 ได้แก่การรองรับปากกาที่ดีขึ้น, ฟีเจอร์ Morph ใน PowerPoint, แปลงไฟล์วิดีโอเป็น 4K, Word โหมดโฟกัสกับงานเขียน เป็นต้น

Office 2019 มีกำหนดออกตัวจริงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ทั้งบนพีซีและแมค


ที่มา: Blognone

4.0 ของจริง! คนสวีเดนเริ่มฝังไมโครชิปบนผิวหนังแทนพกบัตรประชาชน


สำนักข่าว AFP รายงานว่าปัจจุบันประชาชนชาวสวีดิช เริ่มทำการฝังไมโครชิปลงบนผิวหนังของตนเอง ซึ่งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ ไม่ต้องพกบัตรประชาชน, ใช้สแกนแทนคีย์การ์ดในการเข้าทำงานในออฟฟิศ, ซื้ออาหารจากตู้อัตโนมัติ, เข้ายิม, หรือแม้แต่ใช้แทนตั๋วรถไฟ โดยรายงานระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวสวีดิชกว่า 3,000 รายที่ติดไมโครชิปแล้ว

สำหรับการฝังชิปนั้นถูกระบุว่ามีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยระดับมดกัดไม่ต่างจากการเจาะหู ซึ่งการฝังชิปแม้จะฝังไว้ที่ผิวหนังแต่ก็อยู่ในระดับชั้นที่ไม่ลึก ทำให้การอ่านค่าชิปรวมทั้งบันทึกข้อมูลจัดเก็บสามารถทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้คนสวีเดนหันมาใช้ไมโครชิปมากกว่าชาติอื่นๆ ก็เนื่องจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศนั้นมีประสิทธิภาพระดับสูงสุด ที่ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะเป็นความลับไม่รั่วไหลแน่นอน

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรในสวีเดนเพียง 2% ที่ยังพกเงินสดติดตัว ขณะที่อีก 98% นั้นจ่ายผ่านบัตรเครดิตและสมาร์ทโฟนหมดแล้ว ซึ่งเทรนด์ของการใช้ร่างกายมนุษย์มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยี (Biohackng) โดยน่าสนใจไม่น้อยกว่าในอนาคตอุปกรณ์ไอทีพื้นฐานมากมายที่อาจถูกออกแบบมาเมื่อฝังลงในร่างกายของมนุษย์

ที่มา: Beartai

Microsoft เข้าซื้อกิจการ GitHub แหล่งรวม Source Code ใหญ่ที่สุดในโลก


เว็บไซต์ Bloombeg ได้รายงานว่า Microsoft ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของ GitHub ซึ่งทาง Bloomberg ได้ระบุว่า GitHub ได้เลือกร่วมงานกับ Microsoft เพราะ สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของ Microsoft


GitHub เป็นพื้นที่เก็บรวบรวม Code ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ เข่น Apple, Amazon, Google และ Microsoft เป็นต้น และมักใช้เป็นเจ้าของโปรเจ็คต์ซอฟต์แวร์แบบ Open Source

ไม่เพียงแค่นั้น Microsoft ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุน GitHub อย่างชัดเจน โดยพนักงานกว่า 1,000 คน ได้นำ Code ต่างๆ มาเก็บไว้บนพื้นที่ของ GitHub
 
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา GitHub ได้มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านเหรียญ และเมื่อเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา GitHub ได้มีผู้ใช้มากกว่า 14 ล้านคน และมากกว่า 35 ล้านพื้นที่เก็บ ซึ่งส่งผลให้ GitHub เป็นเจ้าของงาน Source Code ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Microsoft ได้ซื้อกิจการของ GitHub ด้วยมูลค่าเท่าไร

Chris Wanstrath ผู้ร่วมก่อตั้ง GitHub

นับตั้งแต่ สัตยา นาเดลลา ได้เข้ามาเป็นซีอีโอเมื่อปี 2014 เป็นต้นมา Microsoft ได้ลงทุนในเทคโนโนยี Open Source อย่างรวดเร็ว โดยได้เปิด PowerShell, Visual Studio Code และ Microsoft Edge JavaScript Engine อีกทั้งยังร่วมกับ Canonical ในการนำ Linux (Ubuntu) มาใช้ใน Windows 10 และซื้อกิจการ Xamarin เพื่อช่วยในการพัฒนาแอปมือถือ

ที่มา: Beartai

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Boston Dynamics เตรียมวางขายหุ่นยนต์สุนัข SpotMini ในปี 2019


Marc Raiber ผู้ก่อตั้งบริษัท Boston Dynamics ได้กล่าวกับทางเว็บไซต์ TechCrunch ว่า หุ่นยนต์ SpotMini ที่มีลักษณะคล้ายสุนัขนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการผลิต (Pre-Production) และจะพร้อมวางจำหน่ายในปี 2019

“SpotMini เป็นหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นจากแนวคิดที่จะใช้ในออฟฟิศ ใช้งานในเชิงธุรกิจ และใช้ในบ้านด้วย”


Boston Dynamics ได้กล่าวว่าจะเริ่มผลิต SpotMini ในครั้งแรก จำนวน 100 ตัว ในช่วงปลายปี 2018 และจะเพิ่มจำนวนการผลิตมากขึ้นในปี 2019 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาแต่อย่างใด

ทาง Boston Dynamics ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า SpotMini รุ่นต้นแบบล่าสุดนี้นั้นมีต้นทุนถูกกว่ารุ่นที่สร้างมาก่อนหน้านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งทางเว็บไซต์ theverge.com ได้คาดการณ์ว่าราคาวางจำหน่าย “น่าจะยังแพงมาก” อยู่เหมือนกัน


บริษัท Boston Dynamics ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1992 ซึ่งแยกตัวออกมาจากห้องแล็บของ MIT (Massachusetts Institute of Technology: สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์) จากนั้นจีงได้เข้าร่วมกับ Alphabet Corp. (บริษัทแม่ของ Google) และถูก SoftBank ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา

หุ่นยนต์ที่น่าสนใจของ Boston Dynamics มีดังนี้
  • BigDog : ได้รับทุนวิจัยจาก DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency: สำนักโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม) โดยหวังจะใช้ในการบรรทุกของสำหรับทหาร
  • Cheetah : วิ่งได้เร็ว 28 ไมล์ต่อชั่วโมง (45 กิโลเมตรต่อวินาที)
  • LittleDog : วิจัยให้กับทาง DARPA แต่ยังคงมาตรฐานของ Boston Dynamics ไว้
  • RiSE : สามารถปืนขึ้นพื้นผิวแนวตั้งจากพื้นดินได้
  • SandFlea : หุ่นยนต์ขนาดเล็ก สามารถกระโดดได้สูง 30 ฟุต
  • PETMAN (Protection Ensemble Test Mannequin) : สร้างขึ้นเพื่อทดสอบชุดป้องกันเคมี
  • LS3 (Legged Squad Support System) : หรือ Alphadog เป็นหุ่นยนต์ BigDog เวอร์ชั่นสำหรับใช้ในการทหาร
  • Atlas : มีความสูง 182 ซม. เป็นหุ่นยนต์ Humanoid ที่พัฒนาขึ้นมาจาก PETMAN
  • RHex : หุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนไหวบนพื้นผิวขรุขระได้
  • SpotMini : หุ่นยนต์สี่ขา ลักษณะคล้ายสุนัข ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นอื่น
  • Handle : มีความสูง 198 ซม. วิ่งได้ไกล 15 ไมล์ (24 กม.) จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว

ที่มา: Beartai

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ยังล้ำได้อีก : หุ่นยนต์ Boston Dynamics โชว์วิ่งกลางแจ้ง และหลบหลีกได้อัตโนมัติ

จากที่สามารถกระโดดตีลังกาหลัง และเปิดประตูให้หุ่นยนต์อีกตัวได้ ล่าสุด Boston Dinamics ได้แสดงทักษะการวิ่งและหลบหลีกสิ่งกีดขวางสำหรับหุ่นยนต์


หุ่นยนต์ Atlas และ SpotMini ของบริษัท Boston Dynamics ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ประกอบกับ AI ที่สามารถเรียนรู้และตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม

ล่าสุด Boston Dynamics ได้โพสต์วิดีโอใหม่ลงบน YouTube ซึ่งแสดงให้เห็นการพัฒนา Machine Learning สำหรับหุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวนี้อย่างชัดเจน


วิดีโอข้างต้นได้แสดงให้เห็นหุ่นยนต์ Humanoid (หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์) นามว่า Atlas ที่สามารถวิ่งบนพื้นหญ้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ และหยุดเมื่อเจอท่อนไม้ขวางทาง จากนั้นจึงกระโดดข้ามท่อนไม้ไป


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ทาง Boston Dynamics ได้โพสต์วิดีโอเพื่อแสดงทักษะการกระโดดตีลังกาหลังของ Atlas มาแล้ว


อีกวิดีโอเป็นหุ่นยนต์ลักษณะคล้ายสุนัข นามว่า SpotMini ที่สามารถวิ่งไปรอบๆ ออฟฟิศ และสามารถก้าวขึ้น-ลงบันไดได้อย่างคล่องตัว


ทาง Boston Dynamics กล่าวว่า ต้องขับเคลื่อนหุ่นยนต์ไปทั่วพื้นที่ เพื่อให้มันตรวจจับพื้นที่ได้ และจากวิดีโอนี้ดูเหมือนว่า SpotMini จะสามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ และใช้กล้องหน้าสำหรับหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

ที่มา: Beartai

รัฐ California ออกข้อบังคับ บ้านที่สร้างใหม่ ต้องติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ มีผลปี 2020

รัฐแคลิฟอร์เนีย ของอเมริกาได้ออกกฎระเบียบบังคับ ให้บ้านพักอาศัยที่ก่อสร้างใหม่ จะต้องติดตั้งแผงโซลาร์พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน มีผลตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นข้อบังคับหนึ่งตามแผนที่รัฐต้องการลดการปล่อยคาร์บอนลงให้ได้ 40% ภายในปี 2030

นักวิเคราะห์มองว่าประกาศของแคลิฟอร์เนียนี้จะทำให้แผงโซลาร์ ไม่ได้มีสถานะเป็นตัวเลือกในบ้าน แต่กลายมาเป็นของจำเป็นเทียบเท่ากับระบบท่อแก๊สหรือฮีทเตอร์ ซึ่งดีต่ออุตสาหกรรมผู้ผลิตแผงโซลาร์โดยรวม อย่างไรก็ตามมีข้อกังวลว่าประกาศนี้จะทำให้ต้นทุนสร้างบ้านในแคลิฟอร์เนียสูงขึ้นไปอีก


ที่มา: Blognone

Red Hat จับมือไมโครซอฟท์ นำแพลตฟอร์ม OpenShift มาสู่ Azure

Red Hat ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ นำแพลตฟอร์มจัดการแอพพลิเคชัน OpenShift ไปให้บริการบนคลาวด์ Azure

OpenShift เป็นแพลตฟอร์มจัดการแอพพลิเคชันสำหรับยุคคลาวด์ ตัวมันเองประกอบด้วย Docker, Kubernetes, Red Hat Atomic และเครื่องมืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การใช้งานสามารถรันได้ทั้งแบบ on premise และบนคลาวด์ของ Red Hat (ในชื่อ OpenShift Online)

ที่ผ่านมา Red Hat มีบริการนำ OpenShift ไปรันบนคลาวด์หลายยี่ห้อ แต่ความร่วมมือครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ให้บริการคลาวด์อย่างไมโครซอฟท์ เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมบริหาร OpenShift ร่วมกับ Red Hat ด้วย

ความร่วมมือครั้งนี้ยังส่งผลให้แพลตฟอร์มลินุกซ์และวินโดวส์ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฝั่งของไมโครซอฟท์จะนำเครื่องมืออย่าง SQL Server และ Visual Studio เข้ามาต่อเชื่อมกับฝั่งของ Red Hat มากขึ้นด้วย


ที่มา: Blognone

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

อนาคตใหม่ Grab ในไทย ส่งคน, ส่งของ, ส่งอาหาร, e-wallet และกู้เงินได้ด้วย

Grab ประเทศไทยเผยวิสัยทัศน์หลังบริษัท Grab ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Uber ในอาเซียน โดยบริษัทระบุว่าจะเดินหน้าสร้าง ecosystem ให้ครบทั้งส่งคน, ส่งของ, ส่งอาหาร รวมถึง E-wallet และมีเป้าหมายจะทำบริการการเงิน ปล่อยกู้เงินได้ ตั้งเป้าคนใช้บริการการเงิน 100 ล้านราย ภายในปี 2020


Grab เปิดตัว Grab Food อย่างเป็นทางการ หลังจากทดลองใช้งานโดยไม่เสียค่าส่งมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2017 โดย ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ประจำ Grab ประเทศไทย ระบุว่า เป้าหมายคือส่งอาหารในระยะเวลาอันรวดเร็ว เน้นส่งระยะ 5 กิโลเมตรรอบตัวผู้ใช้เท่านั้น โดยจะคิดค่าส่งไม่เกินสิบบาท และจะส่งฟรีไปก่อนจนถึงสิ้นเดือน พฤษภาคมนี้

ด้านการควบรวมกับ Uber Eat ธรินทร์ บอกว่าเครือข่ายร้านอาหารเดิม มีอยู่ประมาณ 3,000 ร้านค้า รวมกับเครือข่ายของ Uber Eats อีก 1,000 เป็น 4,000 ร้านค้า และยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า Grab Food มีคนขับมากที่สุด (แต่ไม่บอกจำนวนว่าเท่าไร) และจากครั้งแรกที่ทดลองใช้ จนถึงตอนนี้มียอดส่งอาหารโตขึ้น 4.5 เท่า

ธรินทร์ ระบุเพิ่มเติมว่า Grab กำลังขยายพื้นที่ส่งอาหารให้ครอบคลุมทุกที่ในกรุงเทพฯ และขยายพันธมิตรร้านค้าด้วย

GrabPay ทางบริษัทบอกว่าเป็นบริการที่จะมีขึ้นในอนาคตในไทย ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ ยังไม่สามารถใช้จ่ายตามร้านค้าได้ แต่สิ่งที่ทำได้แล้วตอนนี้คือ ตัดเงินผ่านธนาคาร ซึ่งมีพันธมิตรสถาบันการเงินในไทยแล้ว 9 แห่ง นอกจากนี้ GrabPay ก็ใช้เป็น E Wallet จ่ายค่าอาหารสตรีทฟู้ดได้แล้วที่สิงคโปร์


ธรินทร์ ระบุว่า ในอนาคตเมื่อผู้ใช้สามารถใช้ Grab Pay ซื้อของได้อย่างไร้รอยต่อแล้ว ขั้นถัดไปก็จะเป็นการบริการการเงินสร้างโอกาสทางธุรกิจให้คนอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร คนขับรถ และผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงบริการการเงิน สามารถดำเนินธุรกิจได้บนแพลตฟอร์มของ Grab โดยตั้งเป้าจะสามารถให้บริการแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในอาเซียนได้ 100 ล้านราย ภายในปี 2020

ย้อนกลับไปเดือนมีนาคม Grab สำนักงานใหญ่สิงคโปร์ประกาศเปิดตัว Grab Financial แพลตฟอร์ม FinTech ให้บริการด้านการเงินและประกัน ซึ่งบริการอื่นๆ ของ Grab ที่เกี่ยวกับการเงินอย่าง GrabPay จะถูกรวมอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มนี้ด้วย

ที่มา: Blognone

Microsoft บริการใหม่ๆ ด้าน AI บน Azure AI Platform ในงาน Microsoft Build 2018

ในงาน Microsoft Build 2018 ทาง Microsoft ได้ออกมาประกาศเปิดตัวบริการใหม่ๆ ด้าน AI จำนวนมาก ดังนี้

  • Vision Services เพิ่มความสามารถในการทำ Object Detection ให้กว้างมากขึ้น และปรับแต่งให้ทำการรองรับ Customized Object ได้
  • ปรับปรุงระบบ OCR ให้ดีขึ้น
  • Bing Visual Search มี API ให้ทำการค้นหาข้อมูลด้วยรูปภาพได้แล้ว
  • เปิด Public Preview ให้ Video Indexer สำหรับเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสร้าง Index ให้ Video Stream
  • เปิดตัว Unified Speech Service ที่รองรับการปรับแต่งการทำ Speech Recognition, Voice Synthesis และ Speech Translator เองได้
  • สามารถ Export Custom Vision Model ออกมาใช้ที่ Edge หรือบนอุปกรณ์ Mobile ได้
  • เปิดตัว Cognitive Search ใช้ AI ทำความเข้าใจเนื้อหา ช่วยให้ผลการค้นหาบน Azure Search แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยการรองรับการทำ OCR, Entity Recognition, Key Phrase Extraction, Language Detection, Image Analysis และอื่นๆ
  • ออกอัปเดตใหม่ให้ Azure Bot Service, Bot Builder SDK v4
  • เปิดตัว QnAMaker แบบ Public Preview
  • เปิดตัว 3 โครงการใหม่ Project Gesture, Project Personality Chat, Projtect Conversation Learner
  • เปิดตัว Azure ML SDK for Python แบบ Preview
  • เปิดตัว Azure ML Packages for Computer Vision, Financial Forecasting และ Text Analytics แบบ Preview
  • เปิดตัว ML.NET ระบบ Cross-platform Open Source ML Framework สำหรับ .NET Developer แบบ Preview ที่ https://github.com/dotnet/machinelearning
  • เปิดตัว Azure ML with Project Brainwave แบบ Preview ทำ Deep Neural Net ด้วยการใช้ Hardware Acceleration ช่วยเร่งความเร็วให้สูงขึ้นเป็นพิเศษได้
ที่มา: TechTalk