วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

AIS ตั้ง Robotic Lab พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลไทยใช้งาน

AIS ประกาศตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ดึงนักวิจัยมาพัฒนาหุ่นยนต์ด้านการแพทย์, ระบบ 5G Telemedicine, โซลูชันงานบริการทางการแพทย์ ร่วมกับโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย

 
ผลลัพธ์ของ AIS Robotic Lab จะขึ้นกับความต้องการของแต่ละโรงพยาบาล ตัวอย่างผลงานที่เสร็จแล้วคือ
  • หุ่นยนต์ Telemedicine ชื่อ Robot for Care ช่วยคัดกรองคนไข้ด้วยการวัดอุณหภูมิ thermoscan ตอนนี้พัฒนาเสร็จแล้ว 21 ตัว จะนำส่งให้โรงพยาบาล 20 แห่งใช้งาน
  • ระบบปรึกษาทางไกลด้วย video call
 ที่มา: Blognone

Nuro เริ่มทดสอบรถขนส่งไร้คนขับในแคลิฟอร์เนียแล้ว


ยานพาหนะขนส่งไร้คนขับของ Nuro ได้รับการอนุญาตจากแผนกยานยนต์ของแคลิฟอร์เนีย หรือที่เรียกโดยย่อว่า DMV ให้สามารถทดสอบรถยนต์ไร้คนขับสำหรับการขนส่งไร้คนขับได้อย่างเต็มที่แล้ว

สำหรับการทดสอบของรถยนต์ไร้คนขับ Nuro จะได้รับการอนุญาตให้ทดสอบได้ในพื้นที่บางส่วนของ Santa Clara และ San Mateo รวมถึงพื้นที่ใน Silicon Valley ได้แก่ Mountain View, Palo Alto และ Sunnyvale โดยเบื้องต้นบริษัทได้จัดส่งของให้ฟรีในบริษัทที่ Nuro เลือกไว้ในพื้นที่ Mountain View

บริษัท Nuro ได้ใบอนุญาตสำหรับทดสอบรถยนต์ส่งของไร้คนขับตั้งแต่ปี 2017 แต่เฉพาะสนามสำหรับทดลองรถเท่านั้น การทดสอบขนส่งรถจริงๆ เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น

Nuro นับเป็นบริษัทที่สองที่ได้รับการอนุญาตทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มตัวถัดจาก Waymo ค่ะ

ที่มา: Beartai

สิ่งที่ไทยควรเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีสู้ Covid – 19 ของจีน


ในวันที่เริ่มมีการระบาดของ Coronavirus หรือ Covid – 19 ที่อู่ฮั่น จีนได้เร่งสร้างโรงพยาบาลภาคสนามขึ้นภายใน 10 วัน พร้อมกับขนเทคโนโลยีพร้อมกับทีมแพทย์เพื่อเตรียมรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก

ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างจับมือกันเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 แต่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของจีนกำลังใช้ Robot และ Telemedicine และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาด และเป็นกำลังเสริมให้กับเจ้าหน้าที่ช่วยต่อสู้กับวิกฤตนี้

โดยในช่วงที่รัฐบาลจีนสั่งให้ทุกคนอยู่บ้าน จีนใช้โดรนสำรวจเพื่อดูคนที่แอบฝ่าฝืนกฎ พร้อมติดตั้งลำโพงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสาร

ในพื้นที่โรงพยาบาลสนามอู่ฮั่นมีการใช้หุ่นยนต์เพื่อลดภาระต่างๆ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหุ่นยนต์เพื่อคุยกับแพทย์ และหุ่นยนต์ส่งอาหารและยา หุ่นยนต์เพื่อความบันทเทิง รวมทั้งหุ่นยนต์ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ  โดยได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากบริษัท China Mobile และ CloudMinds

นอกจากนี้ จีนใช้อุปกรณ์ IoT อื่นๆ เพื่อคัดกรองผู้ป่วยผ่านเครื่องวัดอุณหภูมิที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G โดยเครื่องจะแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หากพบคนที่มีอุณภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ

ด้านการรักษา ผู้ป่วยจะสวมสร้อยข้อมือและแหวนอัจฉริยะที่จะซิงค์กับแพลตฟอร์ม AI ของ CloudMinds เพื่อตรวจดูสัญญาณชีพ อุณหภูมิ อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนในเลือด เพื่อเฝ้าระวังและลดภาระให้กับพยาบาลที่ต้องคอยวัดสัญญาณต่างๆ ในแต่ละวัน

โรงพยาบาลภาคสนามเป็นหนึ่งในหลายแห่งในอู่ฮั่น ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ป่วย 20,000 รายหากโรงพยาบาลทั่วไปมีภาระหนัก สถานที่และหุ่นยนต์ก็อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จีนยังได้ใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ที่นำเข้าจากบริษัทในเดนมาร์ค เมื่อเปิดเครื่อง หุ่นยนต์จะเดินไปยังสถานที่ที่ถูกตั้งค่าไว้อัติโนมัติ เพื่อฆ่า Covid – 19  สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9 เปอร์เซ็น ใช้งานได้ 2.5 ชั่วโมงหรือประมาณ 9-10 ห้อง มีเซนเซอร์ติดที่ตัวหุ่น หากพบเจอคนหุ่นจะหยุดทำงานทันที และจะทำงานต่อเมื่อคนไม่มีคนอยู่


Telemedicine ถูกหยิบใช้งานจริง ไม่ใช่แค่พูดถึง


Telemedicine นั้นเป็นเรื่องที่เราพูดกันมันหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรพัฒนามากขึ้น อาจเป็นเพราะไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยา แต่เมื่อ Covid – 19 ระบาด มันบังคับโรงพยาบาลหลายที่ต้องปรับตัว

JD Health บริษัทย่อยของยักษ์ใหญ่ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของ JD.com ได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริการสุขภาพออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่านับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่ากฎของรัฐบาลกลางจะถูกยกเลิก เพื่อให้แพทย์จำนวนมากสามารถให้การดูแลผู้ป่วยผ่านวิดีโอแชทและวิธีการอื่นๆ ได้

โรงพยาบาล เช่น ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยในชิคาโก และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันในวอชิงตันดีซี กำลังใช้ Telemedicine เพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วย Coronavirus

สำหรับไทย อาจจะยังมีเทคโนโลยีนี้ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ อย่างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ใช้หุ่นยนต์ปิ่นโตเพื่อช่วยส่งอาหารและยาให้กับผู้ป่วยในพื้นที่

ส่วน Telemedicine มีใช้งานอย่างจริงจังแค่โรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น อย่างบำรุงราษฐ์ และ กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ทำให้มีแค่คนบางกลุ่มที่พอมีฐานะพอจะเข้าถึงการรักษาได้

ต้องยอมรับว่าไทยมีการปรับตัวรับ Covid – 19 ได้ดีหากเทียบกับประเทศแถบยุโรป แต่น่าเสียดายที่การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือนับว่ามีน้อย ทั้งที่เรามีบุคคลากรด้านวิศวกรที่เก่งมากๆ

ที่มา: TechHub

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563

Microsoft Edge มีส่วนแบ่งตลาดแซงหน้า Firefox ขึ้นเป็นเบราว์เซอร์อันดับ 2 แล้ว


Net Applications รายงานสถิติเว็บเบราว์เซอร์ประจำเดือนมีนาคม 2020 มีจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจคือ ส่วนแบ่งตลาดของ Microsoft Edge สามารถแซงหน้า Firefox ได้แล้ว ขึ้นมาเป็นเบราว์เซอร์อันดับสองของโลกเดสก์ท็อปแล้ว
  • เดือนกุมภาพันธ์ 2020 แชมป์เป็น Chrome แบบทิ้งห่างที่ 67.27% ตามด้วย Firefox 7.57% และ Edge 7.38%
  • เดือนมีนาคม 2020 Chrome ส่วนแบ่งเพิ่มอีกเล็กน้อยเป็น 68.50%, Edge แซงขึ้นมาที่ 7.59%, Firefox ตกลงไปเหลือ 7.19%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Edge มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นคือ Edge ตัวใหม่พลัง Chromium ออกรุ่นเสถียร และไมโครซอฟท์ก็ทยอยปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ Windows 10 กัน

ส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์พกพา Chrome ก็ทิ้งห่างที่ 63.67% อันดับสองคือ Safari 26.46%, Samsung Browser 4.23% ส่วน Firefox บนมือถือมีส่วนแบ่งแค่ 0.57% เท่านั้น

ที่มา: Blognone

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563

[COVID-19] สตาร์ตอัพสหรัฐปลดพนักงานแล้วเกือบ 4,000 ราย, อาจต้องปิดตัวอีกมาก

สำนักข่าว CNBC รวบรวมข้อมูลสตาร์ตอัพในสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จนต้องปลดพนักงาน พบว่ามีกว่า 40 บริษัทแล้ว ส่งผลกระทบต่อพนักงาน 3,800 คนที่ต้องตกงาน

สถานการณ์คนตกงานในสหรัฐอเมริกาล่าสุด มีคนตกงานมากกว่า 3.3 ล้านคนแล้ว และจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ

นอกจากนี้ วงการนักลงทุน Venture Capital ก็เริ่มออกมาเตือนบรรดาสตาร์ตอัพแล้วว่า เงินทุนจะหายากมากขึ้น เราจึงจะได้เห็นการปิดกิจการของสตาร์ตอัพตามมาอีกระลอกใหญ่


ที่มา: Blognone

Ford ประกาศจะผลิตเครื่องช่วยหายใจอีก 50,000 เครื่องภายใน 100 วัน

Ford ประกาศจะผลิตเครื่องช่วยหายใจให้ได้ 50,000 เครื่องภายในระยะเวลา 100 วันนับตั้งแต่ 20 เมษายนเป็นต้นไป หลังเป็นพาร์ทเนอร์กับ GE Healthcare เพื่อนำเครื่องช่วยหายใจรุ่น GE/Airon โมเดล A-E มาผลิต โดย Ford ต้องรอการรับรองด้านกฎหมายในการเป็นผู้ผลิตเครื่องช่วยหายใจรุ่นดังกล่าวให้ GE

Ford ระบุว่าจะใช้โรงงานชิ้นส่วนในรัฐมิชิแกน ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจได้ราว 30,000 เครื่องต่อเดือน โดย GE/Airon โมเดล A-E เป็นเครื่องช่วยหายใจที่ทำงานโดยอาศัยแรงดันลมทำให้ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการใช้งาน ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกที่และค่อนข้างเหมาะสมสำหรับการใช้ในช่วงวิกฤติลักษณะนี้


ที่มา: Blognone

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563

Zoom จับมือ Canva แอปเครื่องมือกราฟิค ให้ปรับแต่ง Virtual Background ได้เอง

Zoom มีฟีเจอร์ Virtual Background ที่ช่วยบังภาพหลังของบ้านและเปลี่ยนแบ็คกราวด์เป็นรูปหรือวิดีโอ โดยมีภาพดีฟอลต์ให้ส่วนหนึ่งและเปิดให้ผู้ใช้อัพโหลดได้เอง

ล่าสุด Zoom ร่วมมือกับ Canva ผู้ให้บริการเครื่องมือสายกราฟิคเปิดให้ดาวน์โหลดภาพนิ่งไปเป็นแบ็คกราวด์ได้จากเทมเพลทของ Canva และปรับแต่งได้ตามต้องการ โดยจะต้องเข้าไปลงทะเบียนกับ Canva ก่อนเพื่อใช้งานเทมเพลท เลือก ปรับแต่งและดาวน์โหลดรูปดังกล่าวลงเครื่องก่อนจะนำไปเปิดเป็น Virtual Background บน Zoom อีกที

สำหรับวิธีการใช้งาน Virtual Background ดูได้ที่นี่


ที่มา: Blognone

ด่วน!! แนะผู้ใช้ Zoom อัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุด ปิดช่องโหว่ส่งข้อมูลให้ Facebook แม้ไม่มีบัญชี


Zoom ถือว่าเป็นหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้ซึ่งเป็นผลกระทบของ COVID-19 ที่ทำให้หลายๆ บริษัทต้องออกมาตรการ Work from Home หรือทำงานจากที่บ้าน โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เป็นช่องทางการสื่อสารหากัน

แต่เมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าแอปพลิเคชัน Zoom บน iOS แอบส่งข้อมูลต่างๆ ของตัวเครื่องของผู้ใช้ให้กับ Facebook โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทาง Zoom ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกอัปเดตเวอร์ชันใหม่ทันที หลังจากได้รับเรื่องมาเพียง 1-2 วัน โดยระบุว่า การส่งข้อมูลดังกล่าว เป็นผลมาจาก Facebook SDK ที่จะดึงข้อมูลต่างๆ ของตัวเครื่องเพื่อไปวิเคราะห์ แต่ในการดึงข้อมูลไปนี้จะไม่มีการดึงข้อมูล และกิจกรรมภายในแอปไปด้วย

เมื่อรู้ถึงต้นตอของปัญหาแล้ว Zoom ได้ทำการนำ Facebook SDK ออกไปและทำการตั้งค่าใหม่เพื่อให้ผู้ใช้ยังสามารถล็อกอินด้วย Facebook ได้เช่นเดิม

โดยทาง Zoom แนะนำให้ผู้ใช้แอปพลิเคชัน Zoom บน iOS อัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าว เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

ที่มา: Beartai

Microsoft Teams เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังได้

เมื่อปีที่แล้ว Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Background Blur ใน Microsoft Teams ในงาน Build 2019 ที่จะใช้ AI มาเบลอพื้นหลังที่ไม่พึงประสงค์ออกไปอย่างง่ายดาย

มีผู้ใช้ออกมาเสนอไอเดียให้ Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ที่จะให้ผู้ใช้เปลี่ยนภาพพื้นหลังได้ด้วยตัวเอง ผ่าน User Voice และได้รับโหวตและเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ใช้ทั่วโลกที่มาสนับสนุนไอเดียนี้


จนทาง Alex วิศวกรจากทาง Microsoft Teams ออกมาเผยว่ากำลังพัฒนาฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่ และคาดว่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกันภายใน 1 ไตรมาส หรือภายใน 3 เดือน

ที่มา: Beartai

Ring Fit Adventure เพิ่มโหมดใหม่ Rhythm Game ขยับตัวพร้อมเสียงเพลง

Ring Fit Adventure เกมออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์บน Nintendo Switch ออกอัพเดตเวอร์ชัน 1.2.0 โดยมีไฮไลท์คือโหมดการเล่นแบบใหม่เรียกว่า Rhythm Game เป็นเกมย่อยให้ขยับไปพร้อมกับเสียงดนตรีเหมือนเกมเต้น แต่คราวนี้ต้องใช้อุปกรณ์ Ring Fit ด้วย

เพลงที่มีให้เลือกตอนนี้เป็นเพลงจากเกมของนินเทนโดเอง อาทิ Super Mario Odyssey, Splatoon 2 ไปจนถึง The Legend of Zelda: Breath of the Wild

ในอัพเดตนี้ยังเพิ่มตัวเลือกเสียงคำแนะนำขณะออกกำลังกาย เป็นเสียงผู้หญิง และเพิ่มโหมดออกกำลังกายแบบ Jogging ด้วย


ที่มา: Blognone