เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2019 ที่่ผ่านมา
ได้มีบทความโพสต์ภายในสำหรับพนักงานของ Intel เท่านั้น เรียกว่า Circuit
News โดยมีหัวเรื่องว่า “โปรไฟล์การแข่งขันกับ AMD :
เทียบกันเราไปไกลแค่ไหน, ทำไมพวกเขาถึงฟื้นกลับมา,
ชิปใดที่เราจะชนะเขาได้”
บทความดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคหลังของ AMD
และวิธีที่บริษัททำอย่างมากมายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นคือ Intel
มองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของ AMD เป็นคู่แข่งสำคัญ
ด้วยกลยุทธิ์ใหม่ของ AMD
ที่เปลี่ยนไปเน้นผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงระดับพรีเมียม สำหรับตลาดอุปกรณ์เดสก์ทอป,
Data Center และ Server ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ AMD
ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งจากรายงานประจำปี 2018 ระบุว่า
ได้มีการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 20%
โดยส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์ Ryzen ล่าสุดสำหรับเดสก์ทอป และ EPYC
สำหรับองค์กร, ระบบ Cloud และ Data Center
AMD ได้สร้างความน่าสนใจในตลาดนักลงทุนด้วยหุ้นระดับ Best Performing Stock
(หุ้นที่มีผลตอบแทนสูง) ของ S&P 500 เมื่อปี 2018
และราคาของหุ้นในปัจจุบันได้ปรับตัวขึ้นอีก
เหล่านี้ทำให้ AMD กลับมาฟื้นตัว และเตรียมแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Intel
ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2019 นี้
โดยจะเห็นได้จากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายในงาน Computex และ E3 ที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญจากทีมประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และวิเคราะห์การแข่งขันของ Intel สรุปสิ่งที่ AMD จะส่งผลต่อ Intel เอาไว้ว้า
- AMD ให้ CPU ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
- AMD ได้ชนะในการให้บริการระบบ Cloud สาธารณะ
- ผลิตภัณฑ์ Zen-core รุ่นใหม่ของ AMD รหัสชื่อ Rome และ Matisse จะทำให้เกิดการแข่งขันในอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์และเดสก์ทอปที่สูงขึ้น
- AMD ใช้ประโยชน์จากกระบวนการผลิตชิประดับ 7 นาโนเมตรของ TSMC ทำให้ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากกว่าเดิม
แต่ถึงกระนั้น Intel ก็ยังมีแนวคิดในกาพัฒนาที่จะมาแข่งขันกับ AMD
โดยเน้นพัฒนาทั้ง 6 ด้าน คือ กระบวนการผลิต, สถาปัตยกรรม, หน่วยความจำ,
การเชื่อมต่อระหว่างกัน, ความปลอดภัย และซอฟต์แวร์
เพื่อที่จะสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดระยะยาวได้
ซอฟต์แวร์ คือปัจจัยสำคัญมากในการพัฒนา โดยทาง Intel
ได้ออกแบบซอฟต์แวร์ที่มีความฉลาดแตกต่างจาก AMD
โดยให้สามารถรองรับได้ตั้งแต่ Linux Kernel
(ส่วนประกอบหลักของระบบปฏิบัติการ Linux) ไปจนถึง Adobe Lightroom
ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรม Intel ได้
และจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าแก่ผู้ใช้
อีกหนึ่งจุดแข็งในด้านซอฟต์แวร์ของ Intel คือ มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์มากถึง 15,000 คน ซึ่งมีจำหน่ายมากกว่าของทาง AMD
ไม่เพียงแค่นั้น ทีมงานของ Intel ยังเข้าใจว่า
นี่ไม่ใช่การแข่งขั้นด้านชิปเพียงอย่างเดียว แต่ Intel
ยังมีฐานด้านธุรกิจที่กว้างกว่า ทั้งในอุปกรณ์มือถือ, เดสก์ทอป, เกมมิง,
Wi-Fi, Thunderbolt, Turbo Boost 2.0 และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย
รวมถึงยังมีโปรเจ็คต Athena
ที่เน้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับแล็ปท็อปรุ่นใหม่ และฟีเจอร์ AI อย่าง
Deep Learn Boost ที่สร้างความแตกต่างจาก AMD อย่างชัดเจน
ที่มา: Beartai