เมื่อเร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศขยายตลาดสำหรับการวางจำหน่าย Surface Laptop และ New Surface Pro 2017 ในหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีโอกาสสูงที่จะได้สัมผัสกับ New Surface Pro 2017 ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับ Surface Laptop นอกจากวางจำหน่ายในสหรับอเมริกาแล้ว
ยังมีประเทศอื่นๆ ด้วย ได้แก่ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ออสเตรีย,
เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ไอร์แลนด์, อิตาลี,
ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน,
สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร แต่ในตอนนี้ยังมีเพียงรุ่น Core i5
ที่วางจำหน่ายเท่านั้น ส่วนรุ่น Core i7
ต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงซัมเมอร์ของต่างประเทศ เช่นเดียวกับสีที่วางจำหน่าย
จะมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีครบทั้ง 4 สี
ซึ่งในหลายประเทศจะมีเพียงแค่บางสี อย่างน้อย 2 สีเท่านั้น
ขณะที่ New Surface Pro 2017 มีการเปิดในหลายประเทศนอกจากสหรัฐอเมริกา อาทิ
ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์,
ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก,
เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน,
สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน และอังกฤษ
ส่วนอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าประเทศไทยมีโอกาสสูงในการวางจำหน่าย New
Surface Pro 2017 เนื่องจากตอนนี้หน้าเว็บไซต์ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย
มีการแสดงคุณสมบัติต่างๆ เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วย
พร้อมกับข่าววงในที่แอบกระซิบมาว่าคนไทยเตรียมยลโฉมและเป็นเจ้าของได้แน่นอน
สำหรับ New Surface Pro 2017 ดีไซน์ยังแทบเหมือนเดิมกับ
Surface Pro 4 มีการพัฒนา kickstand ให้สามารถพับได้มากถึง 165 องศา
มากกว่า Surface Pro 4 ที่พับได้ 150 องศา หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด
12.3 นิ้ว ใช้ซีพียู Intel 7th Gen Kaby Lake มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Core
m3-7Y30, Core i5-7300U (Core m3 กับ Core i5 ใช้กราฟิกการ์ด Intel HD
graphics 620) และ Core i7-7660U (ใช้กราฟิกการ์ด Intel Iris Plus Graphics
640) ไม่มีพัดลมระบายความร้อน เพื่อให้การทำงานเงียบ
แต่สามารถระบายความร้อนได้ดีที่สุด ขณะเดียวกันซีพียูที่ใช้ใน New Surface
Pro ยังได้รับปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานให้ดียิ่งขึ้น
นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยสนับสนุนแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานถึง
13.5 ชั่วโมง ดีเพิ่มขึ้นถึง 50%
แรมมีให้เลือกตั้งแต่ 4GB / 8GB และ 16GB 1866MHz LPDDR3, หน่วยความจำ SSD
มีตั้งแต่ 128GB / 256GB / 512GB และ 1TB, รองรับการใช้ซิมการ์ดหรือ eSIM
สำหรับใช้งาน LTE, พอร์ตที่ให้มาด้วย ได้แก่ USB Type-A, Mini DisplayPort,
Headset jack, Surface Connect และ microSDXC card reader ยังไม่เลือกใช้
USB Type-C
อุปกรณ์คู่ใจอย่าง Surface Pen มีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน
ตอบสนองต่อการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ได้ดีขึ้น
รองรับแรงกดที่ระดับ 4,096 มากขึ้นจากรุ่นเดิมที่รองรับแรงกด 1,024
ขณะเดียวกัน New Surface Pro 2017 ยังรองรับ Surface Dial
อุปกรณ์แบบเดียวที่ใช้ร่วมกับ Surface Studio ได้อีกด้วย
ส่วน Type Cover หรือคีย์บอร์ด มาพร้อมดีไซน์แบบ New Alcantara มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีแดง, สีม่วง, สีน้ำเงิน และสีดำ
ที่มา: ARiP