iPad Pro 2018 ที่หลายๆ คนน่าจะว้าว มากกว่า iPhone
รุ่นใหม่ เริ่มได้รับการรีวิวจากสื่อต่างประเทศแล้วก่อนวางจำหน่ายจริงวันที่
7 พฤศจิกายนนี้
ในภาพรวมคือดีไซน์สวย หน้าจอดีแต่ไม่ได้ดีขึ้นกว่า iPad Pro
ปีที่แล้วขนาดเห็นความแตกต่าง Apple Pencil
ใหม่คือความดีงามโดยเฉพาะการชาร์จแบบไร้สายเวลาติด Apple Pencil ไว้กับ
iPad Pro ทว่าการเพิ่มการควบคุมปากกาด้วยระบบสัมผัส The Verge
ระบุให้ความรู้สึกแปลกๆ และไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับปุ่มจริง ขณะที่ Face ID
ก็ยังคงทำงานได้ดีเหมือน iPhone
แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถสแกนหน้าแบบกลับหัวได้ด้วย กรณีที่ถือ iPad
กลับด้าน
การเปลี่ยนไปใช้พอร์ท USB-C เป็นอีกหนึ่งข้อดีของ iPad Pro
เพราะสามารถใช้งานกับ USB-C Hub ยี่ห้ออื่นๆ ได้สบายและรองรับทั้ง HDMI,
VGA, Card Reader, Ethernet หรือต่อเข้าหน้าจอนอกที่ความละเอียด 5K ได้สบาย
รวมถึงรองรับเอ้าพุทออดิโอทั้งดิจิทัลและแอนาล็อคด้วย
อย่างไรก็ตามการนำพอร์ท 3.5 มม.
ออกก็อาจสร้างปัญหาให้กับกลุ่มผู้ใช้สายงานดนตรีบ้างอยู่เหมือนกัน
ไม่นับรวมอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ ปริ๊นเตอรหรือไมโครโฟนที่เป็น USB-C
กลับไม่สามารถใช้งานกับ iPad ผ่านพอร์ทได้
ในแง่ประสิทธิภาพหรือความแรงจากชิปเซ็ต A12X Bionic
ที่แอปเปิลอ้างในคีย์โน้ตเปิดตัวว่าแรงกว่าแล็บท็อปหรือกราฟิคแรงระดับ Xbox
One S นั้น จากการรันเบนช์มาร์คหรือทดสอบการเรนเดอร์ผ่าน Lightroom และ
Photoshop รวมถึงแปลงไฟล์วิดิโอ 4K เป็น FHD ผ่าน Premier Rush
(ที่ไฟล์ออกมาแค่ FHD เพราะ Premier Rush เอ็กซ์พอร์ทได้สูงสุดแค่นั้น)
ก็พบว่าแรงและเร็วกว่าแท็บเล็ตหรือแม้แต่แล็บท็อปได้จริง
อย่างไรก็ตามถึงแม้ประสิทธิภาพของ iPad Pro จะแรงแค่ไหน
แต่ข้อจำกัดที่ทำให้ iPad Pro ยังคงเป็นแค่ iPad
และไม่สามารถใช้งานทดแทนพีซีได้เป็นส่วนใหญ่ ก็คือ iOS
และข้อจำกัดของแอปเป็นสำคัญ
ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดคือ iOS ไม่รองรับสตอเรจนอกใดๆ เลยนอกจาก SD Card
จากกล้องเท่านั้น ขณะที่การอิมพอร์ทรูปไปยัง Lightroom หรือ Photoshop
ก็ไม่สามารถอิมพอร์ทเข้าแอปโดยตรง ต้องผ่าน Camera Roll
ก่อนและหากคุณเป็นช่างกล้องที่ต้องอิมพอร์ทไฟล์ RAW เยอะๆ
แล้วก็อาจจะเจอปัญหาความจุของ iPad เข้าไปอีกทอด
อย่างไรก็ตามแอปเปิลระบุว่าแอปของ Adobe จะมี Siri Shortcut
สำหรับอิมพอร์ทรูปจาก Camera Roll ไป Lightroom พร้อมลบรูปให้หลังอิมพอร์ท
ทว่ายังไม่เปิดใช้งาน
ส่วนเรื่องของแอปบน iOS
ที่เป็นปัญหาเพราะไม่ซัพพอร์ทบางฟีเจอร์เหมือนบนพีซี แอปบน iPad
ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแอปลูกเมียน้อยที่ถูกตัดฟีเจอร์ลงจากแอปเวอร์ชันเต็ม
มีเพียงแอปของแอปเปิลเองเท่านั้นที่รองรับความสามารถของ iPad เต็มๆ อาทิ
Keynote ที่จะแสดงสไลด์ต่อไปบน iPad และสไลด์ปัจจุบันบนจอนอก
รวมถึงว่าไม่มีเกมบน iOS ที่ดึงความแรงของ iPad
ออกมาได้เต็มที่ในระดับเทียบเท่า Xbox One S
สรุปคือถ้ามอง iPad Pro ในฐานะแท็บเล็ต มันคือเบอร์ 1 ไร้คู่แข่ง
ทำงานคู่กับ Apple Pencil ได้ลงตัว
คนที่เน้นทำงานด้วยปากกาจะตอบโจทย์ตรงนี้ แต่ถ้าใครมีโจทย์คือใช้งานแทนพีซี
อาจจะต้องดูในรายละเอียดอีกครั้งว่างานลักษณะไหนที่ทำเป็นส่วนใหญ่ และ iPad
Pro ตอบโจทย์ตรงนี้หรือไม่
แน่นอนว่าราคาก็อาจต้องเข้ามาเป็นปัจจัยในการพิจารณาด้วย
เมื่อรวมกับค่าเคสคีย์อบร์ดเข้าไป
คะแนนรีวิว
- The Verge 7.5/10
- WIRED 8/10
- TechRadar 4/5
- LaptopMag (เครือเดียวกับ Tom's Guide) 4.5/5
ที่มา: Blognone
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น