itportal ได้นำเสนอแนวโน้ม 3 ข้อที่ทีม DevOps ต้องเจอในปีหน้าซึ่งทางเราขอสรุปมาให้อ่านกันอีกทีครับ
1. Machine Learning จะเข้ามาช่วยในเรื่องการวิเคราะห์คุณภาพ
Machine Learning และ AI
จะสามารถตัดแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วน และทำการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการทำ
Pipeline Testing เพราะเราเชื่อว่า 80% ของปัญหานั้นมีรูปแบบ
ดังนั้นเราสามารถจัดประเภทของปัญหาเป็นกลุ่มได้เพื่อตอบคำถาม เช่น
เกิดจากโค้ดห่วย หรือ มีผลไปถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยหรือไม่ เป็นต้น
อีกทั้ง AI ยังจะเข้ามาช่วยในส่วน Continuous Integration
ได้ทั้หมดเช่นกันเพราะสามารถบอกภาพรวมได้ว่า Pipeline
ทำงานอย่างไรเมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วจะมีผลอย่างไร ซึ่งช่วยลดเวลาได้อย่างมาก
2. MicroService จะมีผลกระทบต่อ DevOps กว่าที่เคย
MicroService ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่จะมีบทบาทในกลุ่มของ DevOps
มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วคอนเซปต์ของ MicroService
คือการแบ่งขั้นตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDLC) ออกเป็นส่วนๆ ดังนั้นการแก้ไข
ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อัปเดต
แต่ละส่วนจะไม่กระทบกัน จึงสามารถแบ่งหน้าที่การทำงานแต่ละส่วนไปพร้อมกันได้
3. Continuous Testing จะหันหน้าสู่ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
เครื่องมือที่เสียเงินแบบเดิมไม่ตอบโจทย์การทำ Continuous Testing ที่ต้องสามารถสเกลได้ตาม Requirement และเรื่อง Shift-Left Testing
ที่ผันจาก QA มาเป็นหน้าที่ของ Dev
อย่างไรก็ตามเครื่องมือแบบโอเพ่นซอร์สสมัยใหม่ เช่น Appium, Selenium,
Nightwatch.js, Angular และ Quantum
สามารถตอบความต้องการข้างต้นได้ดีกว่าแถมยังมีบางแพลตฟอร์ม เช่น Expresso
และ XCUITTest ที่ออกแบบมาเพื่อ Dev ใช้งานโดยเฉพาะด้วย
ดังนั้นไม่แปลกใจที่ทำไมโอเพ่นซอร์สจะกลายเป็นเทรนของ DevOps ในปีหน้า
ที่มา: TechTalk