วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ก้าวสำคัญของวงการ แว่น Meta Quest รองรับการแตะนิ้วบนปุ่มเสมือนในโลก VR แล้ว

Meta ออกซอฟต์แวร์อัพเดต v50 ให้แว่น Quest (ทั้ง Quest 2 และ Quest Pro) ของใหม่ที่สำคัญคือ Direct Touch ให้ผู้ใช้สามารถ "แตะนิ้ว" บนปุ่มเสมือนในโลก VR ได้จริงๆ แล้ว

ก่อนหน้านี้ ซอฟต์แวร์ของแว่น Quest สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของมือทั้งมือ (hand tracking) มาตั้งแต่ปี 2019 แต่ต้องใช้ท่า pinch สองนิ้วในการสั่งงาน ซึ่งไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก

ตอนนี้ Meta แก้ปัญหานี้ได้แล้ว สามารถติดตามการแตะนิ้ว เลื่อนนิ้ว แบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการสั่งงาน VR โดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์ใดๆ

ของใหม่อย่างอื่นในซอฟต์แวร์ v50 คือ In-Game Multitasking หรือการเรียกหน้าต่างแอพ 2D ขึ้นมาทับบนเกม 3D ที่กำลังเล่นอยู่ได้โดยไม่ต้องปิดเกม เช่น เปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาอ่านวิธีเล่น หรือ แชทคุยกับเพื่อน

 

ที่มา: Blognone

เผย Apple มีความคืบหน้า การพัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจน้ำตาลในเลือด ได้อุปกรณ์ต้นแบบแล้ว

มีรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม เผยว่าโครงการพัฒนาเซ็นเซอร์ระบบตรวจจับน้ำตาลในเลือดของแอปเปิล มีพัฒนาการที่สำคัญทำให้โครงการนี้ใกล้ความจริงมากขึ้น หลังทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างหลายร้อยคน ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะนำคุณสมบัติดังกล่าวมาใส่ใน Apple Watch

โครงการสร้างระบบตรวจจับระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งช่วยทั้งระบุความเสี่ยงโอกาสเป็นเบาหวาน และลดการเจาะเลือดทดสอบสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ เป็นแนวคิดมาตั้งแต่สตีฟ จ็อบส์ ยังเป็นซีอีโอแอปเปิล ที่ตอนนั้นต้องเข้ารับการรักษาบ่อยครั้ง โดยแนวทางของแอปเปิลคือใช้ชิปกับเซ็นเซอร์ยิงลำแสงไปชั้นใต้ผิวหนัง วัดระดับความเข้มของน้ำตาลในเลือดตามภาพสะท้อนที่ได้กลับมา ปัจจุบันอุปกรณ์ต้นแบบสำหรับโครงการนี้ยังมีขนาดใหญ่เท่ากับ iPhone ซึ่งแอปเปิลต้องการลดขนาดลงให้สะดวกกับผู้ใช้งาน

รายงานบอกว่าแอปเปิลเริ่มต้นโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2010 โดยตั้งสตาร์ทอัพชื่อ Avolonte Health เพื่อวิจัยและพัฒนาโครงการนี้โดยเฉพาะ พนักงานทั้งหมดจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับแอปเปิล เพื่อให้สะดวกและควบคุมความลับทั้งการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง และการยื่นขอสิทธิบัตร เวลาต่อมาจึงรวมบริษัทนี้เข้ากับฝ่าย XDG ของแอปเปิล ซึ่งเป็นฝ่ายทดสอบไอเดียธุรกิจใหม่ คล้ายกับ X ของ Alphabet


ที่มา: Blognone

Wilson เปิดตัวลูกบาสเก็ตบอลแบบไร้อากาศใช้เทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติเป็นครั้งแรก

Wilson ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาสัญชาติอเมริกันชื่อดัง ได้เปิดตัวลูกบาสเก็ตบอลแบบไร้อากาศที่ใช้เทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติเป็นครั้งแรก

Wilson Airless Prototype ถือว่าเป็นก้าวสำคัญครั้งแรกในประเภทเดียวกันของลูกบาสเก็ตบอลที่จะมาลดความจำเป็นในการเติมลมลูกบอล แต่จะอาศัยโครงสร้างที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี 3 มิติ และวัสดุเกรดวิจัยเพื่อเลียนแบบการกระดอนของลูกบาสเก็ตบอลแบบดั้งเดิม พื้นผิวของลูกบอลประกอบไปด้วยรูเล็กๆ หกเหลี่ยมที่ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้อิสระ ลูกบาสเก็ตบอลนี้โดดเด่นไปด้วยลูกกลมแปดแฉก และโครงสร้างตะเข็บที่คุ้นเคย

ทาง Wilson ได้กล่าวไว้ว่า “นี่คือลูกบอลที่ไม่เหมือนใครที่เราเคยเห็น ออกแบบมาให้เล่นเหมือนลูกบาสเก็ตบอลที่เรารู้จักมาตลอด”

จึงเห็นได้ว่าลูกบาสเก็ตบอลดังกล่าวสามารถเล่นได้ ซึ่งก็ตรงกับข้อกำหนดของด้านประสิทธิภาพของลูกบาสเก็ตบอลตามกฎเกณฑ์ในแง่ของน้ำหนัก, ขนาด และการกระดอน แต่ Wilson Airless ก็ยังอยู่ในต้นแบบ และต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะพร้อมใช้งานสำหรับสนามทั่วโลกในอนาคต


ในการพัฒนาต้นแบบของ Wilson Airless ทีมงาน Wilson Labs ได้มีการทำงานร่วมกับ General Lacttice สำหรับบริการการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์, DyeMansion สำหรับสี และการตกแต่ง และ EOS สำหรับการผลิตแบบเพิ่มเนื้อ

ที่มา: Beartai

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

Tesla ให้เจ้าของรถ 3.62 แสนคันอัพเดตซอฟต์แวร์ แก้ปัญหา FSD มีความเสี่ยงอุบัติเหตุ

Tesla ประกาศว่ารถยนต์จำนวน 3.62 แสนคันในสหรัฐ ได้รับผลกระทบจากซอฟต์แวร์ Full Self-Driving (FSD) Beta อาจก่อให้เกิดอันตรายเวลาข้ามแยกในบางสถานการณ์ โดยขอให้เจ้าของรถยนต์อัพเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA

รถยนต์ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ Model S (2016-2023), Model X, Model 3 (2017-2023), Model Y (2020-2023) โดยลูกค้าในสหรัฐจะได้รับจดหมายแจ้งภายในวันที่ 15 เมษายน 2023

ประกาศของ Tesla ผ่านกระบวนการเรียกคืนรถยนต์ที่มีปัญหา (recall) ของหน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐ (National Highway Traffic Safety Administration) แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็สามารถอัพเดต OTA ด้วยตัวเองได้ ซึ่ง Elon Musk ก็วิจารณ์ผ่านทวิตเตอร์ว่าคำว่า recall สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน


ที่มา: Blognone

Hyundai และ Kia ต้องอัพเดตรถ บังคับสตาร์ตด้วยกุญแจ หลังคลิปขโมยรถนิยมใน TikTok

บริษัทรถยนต์ Hyundai และ Kia (ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Hyundai มาตั้งแต่ปี 1998) ในสหรัฐ ออกอัพเดตเฟิร์มแวร์บังคับให้ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ตรถยนต์ หลังพบปัญหาโจรกรรมรถยนต์มากขึ้นในช่วงหลัง โดยเฉพาะเมื่อมีวิดีโอไวรัล "Kia Challenge" สอนขโมยรถยนต์ Kia ฮิตใน TikTok

วิธีการขโมยที่สอนในคลิปคือให้ทุบกระจกเพื่อไม่ให้สัญญาณกันขโมยดัง แล้วเสียบสาย USB-A ในช่องใต้พวงมาลัย จากนั้นสามารถสตาร์ตรถได้เลย เพราะรถไม่ได้บังคับให้ต้องมีกุญแจตอนสตาร์ตเครื่อง ตามข่าวบอกว่าทริคนี้ใช้ได้กับ Kia รุ่นปี 2010-2021 และ Hyundai รุ่นปี 2015-2021

ความนิยมของวิดีโอนี้ทำให้เกิดการขโมยรถยนต์ Kia มากขึ้น เฉพาะในเมือง Buffalo แห่งเดียว ปริมาณการขโมยแบรนด์ Kia เพิ่มจาก 55 ครั้งในปี 2020 เป็น 275 ครั้งในปี 2022 ปัญหานี้ทำให้หน่วยงานด้านขนส่งทางบกของสหรัฐเข้ามาจับตา และบริษัทประกันรถยนต์บางแห่งก็เริ่มปฏิเสธการขายกรมธรรม์ใหม่หากเป็นรถยนต์สองแบรนด์นี้

สิ่งที่ Hyundai และ Kia ทำคือออกอัพเดตให้ต้องมีกุญแจตอนสตาร์ตเครื่อง และเพิ่มระยะเวลาสัญญาณกันขโมยดัง (กรณีไม่มีกุญแจ) จาก 30 วินาทีเป็น 1 นาที การอัพเดตต้องทำผ่านศูนย์บริการซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง


ภาพรถยนต์รุ่นใหม่ของ Kia จาก @Kia


ที่มา: Blognone

Zoox บริษัทแท็กซี่ไร้คนขับของ Amazon เริ่มให้บริการแท็กซี่บนถนนจริงแล้ว

Zoox บริษัทรถยนต์ไร้คนขับที่ Amazon ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2020 เริ่มให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) บนถนนจริงเป็นครั้งแรก

ความแตกต่างของ Zoox กับบริษัทรถยนต์ไร้คนขับอื่นๆ อย่าง Waymo/Cruise คือรถของ Zoox ออกแบบมาใหม่ทั้งหมด หน้าตาเป็นทรงกล่อง ไม่มีพวงมาลัย ไม่มีคันเร่งหรือเบรก เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อการโดยสารล้วนๆ ไม่มีที่นั่งคนขับเลย

รถแท็กซี่ของ Zoox จะเริ่มใช้บริการเป็นรถชัทเทิลขนส่งพนักงานของ Zoox ในพื้นที่สำนักงานที่เมือง Foster City รัฐแคลิฟอร์เนีย (ทางใต้ของซานฟรานซิสโก)



ที่มา: Blognone

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

Pico บริษัทเฮดเซต VR ของ ByteDance ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 แล้ว

มีรายงานส่วนแบ่งการตลาดของเฮดเซต VR ทั่วโลกจาก IDC พบว่า Meta ซึ่งเดิมมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 90% ในปี 2021 ตัวเลขล่าสุดเมื่อไตรมาสที่ 3 ปี 2022 ลดลงมาที่ 75% โดยมีอันดับ 2 ที่กำลังมาแรงคือ Pica ส่วนอันดับอื่นส่วนแบ่งต่ำกว่า 3%

Pico เป็นแบรนด์เฮดเซต VR ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทของ ByteDance เจ้าของ TikTok ที่น่าสนใจคือภาพรวมตลาดเฮดเซตนั้น ผู้ผลิตทุกรายมีจำนวนส่งมอบที่ลดลง มีเพียง Pico ที่จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้น

Pico ทำตลาดเฮดเซต VR ขายกับลูกค้าทั่วไป และมีขายเฉพาะในยุโรปและเอเชีย ยังไม่ได้ทำตลาดในอเมริกา

ที่มา: Blognone

กลุ่มต่อต้าน Tesla Full Self-Driving ไปไกล ซื้อโฆษณา Super Bowl บอกว่าระบบอัตโนมัติอันตราย

ในสหรัฐอเมริกามีกลุ่มรณรงค์ชื่อ The Dawn Project นำโดย Dan O’Dowd เศรษฐีเจ้าของบริษัทซอฟต์แวร์ Green Hills Software ทำด้านระบบปฏิบัติการฝังตัว

กลุ่ม The Dawn Project รณรงค์ต่อต้านการใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติ Full Self-Driving ของ Tesla ว่ายังไม่มีความปลอดภัยมากพอสำหรับการใช้บนถนนจริง และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนเดินถนนได้ (เป้าหมายคือระบบคอมพิวเตอร์ในภาพรวมควรปลอดภัย แต่สนใจ Tesla มากเป็นพิเศษ)

แคมเปญรณรงค์ของกลุ่มมีหลายทาง มีทั้งการซื้อหน้าโฆษณาหนังสือพิมพ์ เข้าชื่อกดดันนักการเมือง แต่ล่าสุดแคมเปญกำลังไปไกลถึงการซื้อสล็อตโฆษณาในช่วงพักครึ่ง Super Bowl ซึ่งมีราคาแพงมหาศาล เพื่อเผยแพร่คลิปโฆษณาว่า Full Self-Driving เป็นภัยต่อสังคม (จะออนแอร์ในการแข่งขันวันพรุ่งนี้ 13 กุมภาพันธ์ ตอนเช้า ตามเวลาประเทศไทย)


คลิปโฆษณาของ The Dawn Project ถูกวิจารณ์มาตลอดว่าตั้งใจโจมตี Tesla และนำเคสสุดโต่งมานำเสนอ โดยไม่มี methodology การทดลองที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งไม่ได้พูดถึงระบบช่วยขับขี่ของรถยนต์แบรนด์อื่นๆ รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับของ Waymo/Cruise ด้วย ในขณะที่ฝั่งของ The Dawn Project ก็พยายามยืนยันว่าเผยแพร่ฟุตเตจวิดีโอทั้งหมดอยู่แล้ว ตรวจสอบวิธีการทดลองย้อนกลับได้

ที่มา: Blognone

พนักงาน Google ไม่พอใจที่บริษัทเร่งเปิดตัว Bard ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไม่พร้อม

มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่าพนักงานของ Google เองก็ไม่พอใจที่บริษัทรีบเปิดตัวบอตลักษณะเดียวกับ ChatGPT เนื่องจากรู้ๆ อยู่ว่าไม่พร้อม แต่ก็ยังรีบเข็นออกมา

ทาง CNBC รายงานว่าพนักงานของ Google บอกว่าเป็นความผิดพลาดของ ศุนทัร ปิจไช (Sundar Pichai) หรือ CEO ของ Google ที่เร่งเปิดตัว Bard หรือแชตบอตลักษณะแบบเดียวกันกับ ChatGPT ออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พร้อมดี รวมถึงวิจารณ์เรื่องการปลดพนักงานออกจากบริษัทด้วย โดยเป็นการกระทำที่ไม่ได้มองเรื่องผลระยะยาวของบริษัท

 "พนักงานของ Google มองว่านี่เป็นการกระทำที่ไม่มีความเป็น Google เลย"

ก่อนหน้านี้ Google ได้โปรโมต Bard ผ่าน Twitter โดยการโชว์ทักษะการสรุปข้อมูลเกี่ยวกับกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ (หรือ JWST) ให้เด็กอายุ 9 ขวบเข้าใจง่ายๆ โดย Bard ดันให้ข้อมูลผิด โดยกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ หรือ JWST ไม่ใช่กล้องโทรทรรศน์ตัวแรกของโลกที่สามารถถ่ายภาพดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ หรือดาวเคราะห์นอกระบบเป็นครั้งแรก แต่เป็น Very Large Telescope หรือ VLT จากหอดูดาวทางตอนใต้ของยุโรป

ที่มา: Beartai

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

Lawson เริ่มให้บริการร้านสะดวกซื้อไร้แคชเชียร์แบบเดียวกับ Amazon Go

Lawson เครือร้านสะดวกซื้อชื่อดังของญี่ปุ่นเตรียมเปิด Lawson Go ร้านสะดวกซื้อแบบไม่มีพนักงานคิดเงิน โดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับ Amazon Go

ที่ว่าใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้หมายถึงการใช้ระบบ computer vision ในการตรวจสอบการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าภายในร้าน โดยในการใช้บริการลูกค้าจะต้องติดตั้งแอป Lawson Go ในสมาร์ทโฟนและผูกบัญขีบัตรเครดิตกับแอป เมื่อเดินเข้าไปภายในร้านก็เปิดแอปเพื่อสร้างรหัส QR แล้วนำไปสแกนตรงทางเข้าร้าน หลังจากนั้นก็เพียงแต่เดินเลือกซื้อสินค้าภายในร้านแล้วเดินออกจากร้านได้เลย

ร้าน Lawson Go ให้บริการแบบไม่มีแคชเชียร์

ระบบ computer vision และเซ็นเซอร์วัดน้ำหนักสินค้าบนชั้นวางจะทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบว่าลูกค้าผู้ใช้บริการแต่ละคนได้เลือกซื้อหยิบสินค้าอะไรไปบ้าง เมื่อลูกค้าคนดังกล่าวเดินออกจากร้านระบบก็จะรวมข้อมูลสินค้าทั้งหมดเพื่อคิดเงินโดยการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตที่ผูกกับแอป Lawson Go ไว้ โดยใบเสร็จค่าสินค้าจะถูกส่งไปยังลูกค้าผ่านทางแอป

แอป Lawson Go ที่ใช้ยืนยันตัวตนโดยสร้างรหัส QR ไปสแกนที่ทางเข้าร้าน และเป็นช่องทางรับใบเสร็จดิจิทัลค่าสินค้า

Lawson Go เปิดให้บริการสาขาแรกที่อาคาร Mitsubishi Shokuhin ใน Tokyo เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ภายในร้านจะยังมีพนักงานทำงานอยู่ แต่จะทำหน้าที่หลักเพื่อเติมสินค้าและดูแลความเรียบร้อยภายในร้านเท่านั้นโดยไม่ได้ให้บริการคิดเงิน Lawson ระบุว่าในอนาคตจะขยายสาขา Lawson Go และจะเพิ่มเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยตนเองเป็นทางเลือกการจ่ายเงินค่าสินค้าให้แก่ผู้มาใช้บริการอีกทางหนึ่งด้วย

ที่มา: Blognone